xs
xsm
sm
md
lg

สภาตลาดทุนเปิดแผนปี 56 ผุดกองทุนภาคบังคับ-ต่ออายุ LTF

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยแผนปี 56 ส่งเสริมให้บริษัทมีการระดมทุนผ่านตลาดทุนไทยมากขึ้น ทั้งบริษัทเอกชน-รัฐวิสาหกิจ พร้อมผลักดันให้เกิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ-ต่ออายุกองทุนหุ้นระยะยาวเพื่อให้เกิดการออมระยะยาว

     นายไพบูลย์ นลินทรางกูร  ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) เปิดเผยว่า วิสัยทัศน์ตลาดทุนปีนี้ คือ เป็นกลไกหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการกระจายความมั่งคั่ง รวมทั้งเป็นที่หมายและจุดเชื่อมโยงการลงทุนในระดับภูมิภาคและระดับโลก  โดยแผนงานให้ความรู้ ส่งเสริมให้บริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดุนไทย  เพราะบริษัทเข้ามาจดทะเบียนมีเพียงประมาณ 500 บริษัท ขณะที่นิติบุคคลไทยมีจำนวน 5-6 แสนบริษัท และจากการที่รัฐบาลมีการลดภาษีนิติบุคคลลงปีนี้เหลือ 20% และมีกระแสข่าวจะลงลงเหลือ 15% ทำให้บริษัทนิติบุคคลเข้ามาระดมทุนเพื่อนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจ เพราะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการกู้สถาบันการเงิน

            “ในปีที่ผ่านมา บจ.มีการเข้าระดมทุนไอพีโอ และพีโอ เพิ่มทุนจำนวน 1.5 แสนล้านบาท  ซึ่งถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าขอสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 9 แสนล้านบาท จึงอยากให้มีการระดมทุนผ่านตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะ ต้นทุนในการระดมทุนที่ต่ำกว่ากู้แบงก์” นายไพบูลย์กล่าว

                ทั้งนี้ สภาธุรกิจฯจะมีการหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการจัดงานสัมมนาในการชวนให้บริษัทเข้าจดทะเบียน โดยจะพูดถึงประโยชน์ของการเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งส่วนตัวมองว่าจังหวะในช่วง 1-2 ปีนี้เหมาะสมมาก จากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2555 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอันดับ 2 ของโลก รองจากตุรกี

                รวมถึงจะเร่งรณรงค์ และให้ความรู้ประชาชนเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการนำรัฐวิสาหกิจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยจะชี้ให้เห็นว่า การเข้าจดทะเบียนของรัฐวิสาหกิจจะช่วยลดภาระด้านงบประมาณ และหนี้สาธารณะของประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันจากต้นทุนการเงินที่ลดลง รวมทั้งทำให้รัฐวิสาหกิจมีความโปร่งใสตรวจสอบได้  เช่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.นั้น มีการลงทุนราคาน้ำมัน นั้นจะต้องมีการแจ้งข้อมูลต่อสาธารณชนทราบ  อย่างไรก็ตาม จะให้ความรู้ประชาชนไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดการยอมรับ และไม่มองว่าการนำรัฐวิสาหกิจเข้าตลาดเป็นการขายชาติ

                นายไพบูลย์ กล่าวว่า  ด้านการกระจายความมั่งคั่ง สภาฯ จะเร่งให้ความรู้ประชาชน และสร้างวัฒนธรรมการออมผ่านตลาดหุ้น ผลักดันให้เกิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ รวมทั้งเสนอให้กระทรวงการคลังต่ออายุมาตรการภาษีที่สนับสนุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งจะจบลงในปี 2559 โดยเบื้องต้น อาจเสนอให้คลังพิจารณาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ LTF เป็นมาตรการถาวร เพื่อให้ประชาชนใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งออมได้อย่างเต็มที่

                สำหรับด้านการเป็นจุดเชื่อมโยงของการระดมทุนในดับภูมิภาค และระดับโลก สภาฯ จะร่วมมือกับภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ตลาดทุนไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก โดยอาศัยจังหวะที่ตลาดหุ้นยังอยู่ในภาวะสดใสในช่วง 2 ปีนี้เดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้มากที่สุด โดยเฉพาะในประเทศใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไป รวมทั้งจะเร่งพัฒนาบุคลากรในตลาดทุนให้มีวิสัยทัศน์ในดับภูมิภาคและระดับโลกมากขึ้น เพราะปัจจุบัน 90% ของบุคลากรในตลาดทุนรู้เฉพาะการลงทุนในประเทศ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการพัฒนาตลาดทุนในอนาคต

                 นอกจากนี้ สภาฯ จะเสนอคลังพิจารณาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการในตลาดทุนที่ทำบทวิจัยเกี่ยวกับภูมิภาค และตลาดทุนโลก โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไปหักค่าลดหย่อนได้ 2 เท่า เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนมีบทวิจัยในระดับภูมิภาคประกอบการตัดสินใจลงทุน

                “ทางสภาธุรกิจดังกล่าวจะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าไปในคณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อที่จะให้ทางรัฐมนตรีคลังรับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป จากที่รัฐมนตรีคลังเป็นประธานของคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย” นายไพบูลย์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น