“คลัง” อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย 1 ม.ค.-30 ก.ย.2556 ล็อตแรกไฟเขียว 8 ราย
น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กระทรวงการคลังได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขออนุญาตเพื่อออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ปีละ 3 ครั้งคือ ภายในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งการพิจารณาแต่ละครั้งจะดูผลกระทบต่อการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนไทย โอกาสที่นักลงทุนในประเทศสามารถลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ และได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และโอกาสในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย
สำหรับการพิจารณาคำขออนุญาตออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในรอบเดือนพฤศจิกายนนั้น กระทรวงการคลังได้อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 8 ราย ออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2556โดยมีรายชื่อ และวงเงินการอนุญาต ดังนี้
1.Industrial Bank of Korea (IBK) วงเงินอนุมัติ 10,000 ล้านบาท
2.ING Bank NV. (ING) วงเงินอนุมัติ 10,000 ล้านบาท
3.The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) วงเงินอนุมัติ 10,000 ล้านบาท
4.The Ministry of Finance of the Lao People' s Democratic Republic (Lao PDR) วงเงินอนุมัติ 1,500 ล้านบาท
5.Noble Group Limited (Noble)* วงเงินอนุมัติ 3,500 ล้านบาท
6.Coorperative Centrale Raiffeisen-Boerenl Esnbank BA 4,000 (Robobbank Nederland) วงเงินอนุมัติ 4,000 ล้านบาท
7.Shinhan Bank (Shinhan) วงเงินอนุมัติ 10,000 ล้านบาท
8.Woori Bank (Woori) วงเงินอนุมัติ 10,000 ล้านบาท
หมายเหตุ : * กระทรวงการคลังพิจารณาอนุญาตอนุญาตให้ Noble ออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยโดยใช้อันดับความน่าเชื่อถือของผู้ค้ำประกัน
น.ส.จุฬารัตน์ กล่าวเสริมว่า การที่กระทรวงการคลังได้พิจารณาอนุญาตให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ออกพันธบัตรสกุลเงินบาทในประเทศไทยนั้น เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือภายใต้มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Market Initiative : ABMI) และแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community Blueprint : AEC Blueprint) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
ทั้งนี้ เพื่อกำกับดูแลให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตดำเนินการออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล กระทรวงการคลังจึงกำหนดให้ผู้ที่ได้รับอนุญาต หรือตัวแทนจะต้องยื่นหนังสือรายงานสถานะความคืบหน้าการเตรียมการออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยต่อกระทรวงการคลังภายในเดือนมีนาคม และมิถุนายน 2556 โดยกระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิในการพิจารณาทบทวนวงเงินที่ได้รับอนุญาตออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย เพื่อให้สามารถนำวงเงินมาจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ยื่นขออนุญาตรายใหม่ต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิที่จะระงับการอนุญาตในกรณีที่สถานภาพ หรือสถานะทางการเงินของผู้ที่ได้รับอนุญาต หรือเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงการคลังขอขอบคุณผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกรายที่ให้ความสนใจในการออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย สำหรับผู้มีความประสงค์จะขออนุญาตในรอบถัดไปสามารถยื่นหนังสือแสดงความจำนงได้ภายในเดือนมีนาคม 2556