“วายแอลจี” ชี้หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,656 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่งแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร โดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,665 หรือ 1,656 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดโซน 1,656 ดอลลาร์ ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน
วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานสภาวะตลาดทองคำวานนี้ (3 ม.ค.) ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,683.55-1,689.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG13 อยู่ที่ 24,450 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,440 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVG13 อยู่ที่ 945 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 939 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.25 น.ของวันที่ 03/01/13)
สำหรับแนวโน้มวันที่ 4 ม.ค. สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เรียกร้องให้สภาคองเกรสสหรัฐฯ ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่าเพียงแค่การทำข้อตกลง เพื่อทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) เปิดเผยว่า การบรรลุข้อตกลงของสภาคองเกรสเพื่อเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังแทบไม่ส่งผลต่อแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในเชิงลบซึ่งมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะถูกปรับลดอันดับเครดิตลงอีก
เช่นเดียวกับ มูดี้ส์ได้จัดอันดับอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ไว้ในเชิงลบ ซึ่งเป็นการเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในวันข้างหน้า ปัจจัยดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ตาม ความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำจากสถานการณ์ด้านการเงินในยูโรโซน แม้ว่าแนวโน้วปัญหาหนี้สาธารณะจะคลี่คลายมากขึ้นนับตั้งแต่ธนาคารกลางยุโรป ได้ประกาศการทำธุรกรรมด้วยการซื้อพันธบัตรระยะสั้นอย่างไม่จำกัดจำนวน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจยูโรโซนกลับมาขยายตัว
โดยนายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า วิกฤตหนี้สินยูโรโซนยังคงห่างไกลจากคำว่าจบ และสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในปีนี้จะมีความยากลำบากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม วายแอลจีอยากแนะนำ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,665-1,656 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เชื่อว่าจะมีแรงซื้อทางเทคนิคเข้ามา สำหรับปัจจัยพื้นฐานของราคาทองคำนั้นยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาชี้นำราคา ทำให้การเคลื่อนไหวยังคงอยู่ในกรอบที่ค่อนข้างจำกัด
ทำให้กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ เบื้องต้น หากราคาสามารถยืนเหนือ 1,656 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,665 หรือ 1,656 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดโซน 1,656 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไป ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,647 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัว หรือบริเวณแนวต้าน 1,694 หรือ 1,704 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ1,665 (23,900 บาท) 1,656 (23,770 บาท) 1,647 (23,640 บาท) แนวต้าน 1,694 (24,320 บาท)1,704 (24,470 บาท) 1,713 (24,600 บาท)
GOLD FUTURES (GFG13) แนวรับ1,665 (24,160 บาท) 1,656 (24,030 บาท) 1,647(23,900 บาท) แนวต้าน1,694 (24,580 บาท) 1,704 (24,720 บาท)1,713 (24,850 บาท)
SILVER FUTURES (SVG13) แนวรับ 30.45 (928 บาท) 30.10 (917 บาท) 29.85 (910 บาท) แนวต้าน 31.50 (960 บาท) 31.85 (970 บาท) 32.20 (981 บาท)
