ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ออฟฟิศเมท (OFM) จากการควบรวมกิจการกับธุรกิจในเครือของกลุ่มจิราธิวัฒน์ พร้อมย้าย OFM เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มบริการ หมวดพาณิชย์ 26 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ OFM ในระดับหมื่นล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า บมจ.ออฟฟิศเมท (OFM) ซึ่งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มบริการ หมวดพาณิชย์ ตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2555 หลังจากการควบรวมกิจการกับบริษัท ปราณพร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มจิราธิวัฒน์ที่ถือหุ้นในออฟฟิศ ดีโป และบีทูเอส ซึ่งมีสาขารวมกันกว่า 110 แห่งทั่วประเทศ โดยหลังการควบรวม OFM จะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) อยู่ในระดับหมื่นล้านบาท
OFM มีทุนชำระแล้ว 320 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 80 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการควบรวมกิจการกับธุรกิจในเครือของกลุ่มจิราธิวัฒน์ ซึ่งได้แก่ ออฟฟิศ ดีโป และบีทูเอส จำนวน 240 ล้านหุ้น โดยจัดสรรแก่กลุ่มจิราธิวัฒน์เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 ในราคาหุ้นละ 37.50 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท โดยมี บมจ.หลักทรัพย์ ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการยื่นขอให้รับหลักทรัพย์ใหม่ (Relisting) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมี บมจ.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้ความเห็นชอบในการรับโอนกิจการ
นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ออฟฟิศเมท เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง OFM กับ ออฟฟิศ ดีโป และบีทูเอส จะก่อให้เกิดการผนึกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องด้วยแต่ละบริษัทมีความชำนาญในแต่ละด้านที่แตกต่างกัน สามารถเสริมจุดเด่น และปรับปรุงจุดด้อยในการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดย OFM เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านระบบแค็ตตาล็อก E-Commerce และ E-Procurement ในขณะที่ ออฟฟิศ ดีโป และบีทูเอส เป็นธุรกิจค้าปลีกเฉพาะด้านอันดับ 1 ของไทย ครอบคลุมในหลายพื้นที่ การรวมกันในครั้งนี้ส่งผลให้ OFM มีช่องทางการให้บริการเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสินค้าหลักของบีทูเอส อันได้แก่ หนังสือ สื่อบันเทิง เพลง ภาพยนตร์ (Edutainment) จะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้แก่สินค้าของ OFM และช่วยขยายฐานลูกค้าของ OFM ให้ครอบคลุมในหลายกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ภายหลังการควบรวมกิจการ ร้านค้าของออฟฟิศ ดีโป จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นร้านออฟฟิศเมท
ทั้งนี้ หลังการรับโอนกิจการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ OFM ได้แก่ กลุ่มจิราธิวัฒน์ถือหุ้น 75% และผู้ถือหุ้นเดิมของ OFM ถือหุ้น 25% ทั้งนี้ OFM มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่างๆ
ส่วนการคำนวณ Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ OFM ในวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ให้ใช้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์ดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นฐานในการคำนวณ Ceiling & Floor ตามปกติ