xs
xsm
sm
md
lg

จิราธิวัฒน์ควบรวมออฟฟิศเมท หวังนั่งบัลลังก์ค้าปลีกออนไลน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จิราธิวัฒน์ ส่ง บีทูเอส และออฟฟิศดีโป เข้าควบรวมกับทางออฟฟิศเมท หวังช่วยเสริมแกร่งด้านออนไลน์สู่ตลาดอาเซียนในอนาคต เผยหลังควบรวมบริษัทส่งผลมูลค่ารายได้รวมในสิ้นปีอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท เชื่อหลังจากนี้มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% ทุกปี

นายทศ จิราธิวัฒน์ ในนามกลุ่มจิราธิวัฒน์ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มจิราธิวัฒน์ ในนามของออฟฟิซ คลับ (ไทย) และบีทูเอส ได้มีการร่วมมือกันกับทางออฟฟิศเมท โดยเป็นการโอน 2 ธุรกิจ คือ บีทูเอส และออฟฟิศดีโป ให้ออฟฟิศเมทซึ่งเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกออนไลน์ จะทำให้ลูกค้าทั้งสามบริษัทได้รับประโยชน์ ที่สำคัญก่อให้เกิดการซินเนอร์จี สร้างจุดเด่นและปรับปรุงจุดด้วย ที่สำคัญจะช่วยให้บีทูเอสและออฟฟิศดีโปสร้างยอดขายได้ดีขึ้นในช่องทางออนไลน์

สำหรับการร่วมมือกับทางออฟฟิศเมทครั้งนี้เป็นการควบรวมกิจการ โดยสัดส่วนการถือครองหุ้นกว่า 75% เป็นของกลุ่มจิราธิวัฒน์ และอีก 25% เป็นของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของออฟฟิศเมท ซึ่งหลังกระบวนการควบรวมกิจการจะเสร็จสิ้นลงภายในสิ้นปีนี้แล้วนั้น การทำงานขั้นต่อไป คือ การปรับโครงสร้างคณะกรรมการของออฟฟิศเมท และการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อเสริมความคล่องตัวและก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน โดยนายวรวุฒิ อุ่นใจ จะยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) บริหารจัดการธุรกิจหลักของทั้ง 3 บริษัท คือ บริษัทออฟฟิศเมทเดิม เป็นบริษัท ออฟฟิซ คลับ (ไทย) และบริษัท บีทูเอส ซึ่งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ และทีมบริหาารจะมีการหารือกันอีกครั้ง

ด้านนายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ภายหลังการควบรวมกิจการแล้ว จะส่งผลให้ออฟฟิศเมทมีสินทรัพย์รวมกว่า 4,00 ล้านบาท และคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีรายได้รวมกว่า 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของร้านออฟฟิศดีโป ประมาณ 3,200 ล้านบาท ธุรกิจบีทูเอส 3,500 ล้านบาท และที่เหลือเป็นรายได้ของออฟฟิศเมทกว่า 1,300 ล้านบาท โดยปีหน้าเป็นต้นไปมองว่าจะมีอัตราการเติบโตปีละ 15-20% ขึ้นไป เนื่องจากการที่มีสินค้าที่มีคุณภาพและหลากหลายมากขึ้นในการนำเสนอแก่ลูกค้าในระบบออนไลน์

โดยการควบรวมกิจการครั้งนี้ เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มบริษัทมองเห็นศักยภาพของตลาดค้าปลีกออนไลน์มูลค่า 80,000 ล้านบาท ที่มีการเติบโตปีละ 20% แต่ยังไม่ผู้นำตลาดที่ชัดเจน ซึ่งในอนาคตจะมีโอกาสเติบโตได้มีสูงมาก โดยเฉพาะจากปัจจัย 3G จึงต้องการเข้ามารุกและเป็นผู้นำในตลาดนี้ เพื่อก้าวความเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกออนไลน์ในระดับอาเซียนต่อไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น