ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนปีหน้านักลงทุนระมัดระวังการลงทุนจากเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าออกเร็ว เชื่อตลาดหุ้นไทยโดดเด่นจากเศรษฐกิจเติบโต-กำไร บจ.ดีต่อเนื่อง “วิรไท” แจง 2-3 สัปดาห์นี้ ฝรั่งซื้อสุทธิ 1.7 หมื่นล้านบาท ผลดีต่อเนื่องจากเดือนก่อน จากไทยมีน้ำหนักการลงทุนใน MSCI เพิ่มเป็น 3.24% จาก 2.66% ณ สิ้นปี 2554
นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นปี 2556 คาดว่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องจากปี 2555 เพราะจากการที่สภาพคล่องทางการเงินส่วนเกินของโลกมีจำนวนมาก และธนาคารต่างๆ ในยุโรป อเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีการอัดฉีดเม็ดเงินสภาพคล่องเข้าระบบการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังคงมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เชื่อว่าจะมีการค่อยๆ ฟื้นตัว แต่เศรษฐกิจยุโรปเชื่อว่าจะติดลบต่อเนื่องจากปี 2555 ทำให้ตลาดหุ้นโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก
สำหรับเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจในแถบเอเชียมีการเติบโตต่อเนื่อง จากการลงทุนที่มากขึ้น เช่น ไทยมีแผนที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เอกชนมีการระดมทุนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ ยอดการขอการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มียอดมากขึ้น ขณะที่พม่ามีการเปิดประเทศมีการลงทุนมากขึ้น ขณะที่จีนก็จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีในต้นปีหน้า ทำให้เศรษฐกิจในแถบเอเชียมีการเติบโตที่ดีเป็นที่น่าสนใจในการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปีหน้าเชื่อว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจในการเข้ามาลงทุน ทำให้มีเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุน แม้ค่า P/E ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หากเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นไทยในภูมิภาคถือว่าอยู่ในระดับกลางไม่ได้สูงมาก และบริษัทจดทะเบียนไทยมีกำไรเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งได้ผลดีจากการที่รัฐบาลมีการลดภาษีนิติบุคคลจาก 23% เหลือ 20% อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะต้องระวังจากการสภาพคล่องทางการเงินมีอยุ่จำนวนมากนั้น ทำให้การไหลเข้าออกของเม็ดเงินต่างชาติจะเร็ว และความผันผวนของค่าเงินบาท ซึ่งแนวโน้มมีโอกาสที่จะแข็งค่าขึ้นจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรปจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินสภาพคล่อง มีผลทำให้ค่าเงินต่ำ ทำให้ค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้น
นายวิรไท กล่าวว่า จากการที่หุ้นไทยได้รับคัดเลือกไปคำนวณดัชนี MSCI ThailandStandard ส่งให้ ณ สิ้น พ.ย. มีหุ้นไทยจำนวน 22 หุ้น ได้คัดเลือกเพื่อคำนวณดัชนี MSCI AC Asiaex Japan โดยมีน้ำหนักการลงทุนของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 3.24% จาก 2.66% ณสิ้นปี 2554 ทำให้กองทุนต่างๆ มีการจัดสรรเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ซึ่งเห็นจากในเดือน พ.ย.นักลงทุนต่างชาติได้มีการซื้อสุทธิหุ้นไทย 6,173.30 ล้านบาท และมีผลต่อเนื่องมายังเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งต่างชาติซื้อสุทธิจำนวน 17,571.49 ล้านบาท ทำให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (19 พ.ย.) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 70,869.80 ล้านบาท
สำหรับการระดมทุนในพฤศจิกายน บจ.มีการระดมทุนรวม 13,704 ล้านบาท แบ่งเป็นการระดมทุนในตลาดแรก 2,278 ล้านบาท จากบริษัทเข้าใหม่ 3 บริษัท และมีการระดมทุนตลาดรอง 11,426 ล้านบาท โดยในช่วง 11 เดือน ปีนี้ บจ.ระดมทุนรวม 141,746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.07% ซึ่งคาดว่ามูลค่าระดมทุนในเดือนธันวาคม จะมีการเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. จากที่จะมีหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียน และจากการที่บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP มีการเพิ่มทุน