ดีเอ็นเอ 2002 กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น ในอัตราหุ้นละ 1.90 บาท ขณะที่ ก.ล.ต. อนุมัติแบบไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 12-14 ธ.ค.2555 โดยมี บล.คันทรี่กรุ๊ป เป็นแกนนำในการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น พร้อมผนึกความร่วมมือกับอีก 5 โบรกเกอร์ชั้นนำร่วมรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับท่วมท้น หลังเดินสายโรดโชว์ให้ข้อมูล เหตุบริษัทฯ มีจุดแข็งเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 1,432 สาขาทั่วประเทศ ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% หนุนผลการดำเนินงานในอนาคตมีโอกาสเติบโตสูง
นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ประเภทภาพยนตร์ เพลง ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนภายหลังเสนอขายมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดราคาเสนอขายในอัตราหุ้นละ 1.90 บาท และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม 2555
ทั้งนี้ บมจ.ดีเอ็นเอ 2002 มีทุนจดทะเบียน 160 ล้านบาท หรือ 640 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.25 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 120 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2552 บริษัทฯ มีรายได้รวม 750.86 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.35 ล้านบาท ปี 2553 รายได้รวม 952.13 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20.29 ล้านบาท ส่วนในปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,112.36 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.13 ล้านบาท
ขณะที่ 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมกว่า 1,014.93 ล้านบาท กำไรสุทธิ 42.52 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนใหเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบัน บริษัทฯประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ (Home Entertainment) ได้แก่ ภาพยนตร์ เพลง ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ในรูปแบบบลูเรย์ ดีวีดี วีซีดี และซีดี และสินค้าประเภทสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสารรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน และพ็อกเกตบุ๊ก โดยสินค้าประเภทภาพยนตร์ และเพลงถือเป็นสินค้าหลักของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 85% ของรายได้รวม
“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าเป็นกลยุทธ์หลักในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ เป็นสื่อเพื่อความบันเทิงในครอบครัว ดังนั้น การกระจายจุดจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างนั้น จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อการขยายตัว และการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีช่องทางการจำหน่ายมากกว่า 1,432 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ” นายสามารถกล่าว
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ กล่าวว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของ DNA เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด ก.ล.ต.ได้พิจารณาอนุมัติแบบไฟลิ่งของ DNA เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้กำหนดวันจองซื้อหุ้นที่จะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในเดือนธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า บมจ.ดีเอ็นเอ 2002 เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาส 3/2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าบริหารพื้นที่จำนวน 131 สาขา ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ซึ่งเป็นการเข้าบริหารพื้นที่แทนรายเดิม และในอนาคตยังได้สิทธิขยายสาขาไปกับห้างเทสโก้ โลตัส ที่มีแผนการขยายสาขาเพิ่มอีกปีละกว่า 10 สาขา
“จากการได้สิทธิเข้าไปบริหารพื้นที่ในห้างเทสโก้ โลตัส เพิ่มอีกกว่า 131 สาขานั้น ทำให้บริษัทฯ มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากคู่แข่งรายหลักที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันมีช่องทางการจำหน่ายที่ลดน้อยลง โดยปัจจุบัน บริษัทฯมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 30% จากมูลค่าการตลาดรวม 5,000 ล้านบาท” นายวรชาติกล่าว
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ดีเอ็นเอ 2002 กล่าวว่า ในการขายหุ้นครั้งนี้จะมีผู้ร่วมรับประกันการจัดจำหน่าย (Co-underwriters) 5 รายคือ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
“หลังจากทางทีมผู้บริหารของ บมจ.ดีเอ็นเอ 2002 ทีมที่ปรึกษาทางการเงินจากบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัดและทางทีมงานจาก บล.คันทรี่ กรุ๊ป ได้เดินทางไปให้ข้อมูลนักลงทุนที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงนักลงทุนในกรุงเทพฯ แล้ว ปรากฏว่า ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น เพราะนักลงทุนมีความเข้าใจในพื้นฐานธุรกิจของบริษัทฯ และมองเห็นศักยภาพในการเติบโตในอนาคต เนื่องจากมีช่องทางการจำหน่ายกว่า 1,432 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นจุดแข็งอย่างมาก ขณะเดียวกัน ในการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ นอกจาก บล.คันทรี่ กรุ๊ป ที่ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead underwriter) แล้ว ยังมีผู้ร่วมรับประกันการจัดจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์อีกถึง 5 โบรกเกอร์ที่ร่วมเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายในครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่า การเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี” ดร.ประสิทธิ์กล่าว