“ท่องเที่ยว-น้ำท่วม” บูมเขาใหญ่ดันดีมานด์ที่อยู่อาศัย-ราคาที่ดินพุ่ง

           ดีมานด์บ้านหลังที่ 2 ย่านเขาใหญ่พุ่ง หลังความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ท่องเที่ยวใกล้ กทม.ขยายตัว ผู้บริโภคหวังซื้อเพื่อพักตากอากาศ-หนีน้ำท่วม “ซินิคอล” เผยแค่ 1 ปีราคาที่ดินขยับขึ้น 60% จากราคาขาย 3 ล้านบาทเพิ่มเป็น 5 ล้านบาทต่อไร่ ด้าน “ซินิคอล” สบช่องผุดโครงการมิกซ์ยูส คอนโดมิเนียมผสมพูลวิลลา สวนน้ำ สวนสนุก คอมมูนิตีมอลล์ มูลค่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเปิดพรีซลล์ 13-16 ธ.ค.ที่สยามพารากอน

            การขยายตัวของดีมานด์ที่อยู่อาศัยในจังหวัดท่องเที่ยว และพื้นที่ท่องเที่ยวใกล้ กทม. มีปริมาณสูงขึ้น นับตั้งแต่เกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ซึ่งส่งผลต่อความต้องการบ้านหลังที่ 2 ของผู้บริโภค เพื่อรองรับการอยู่อาศัยในภาวะไม่ปกติ หรือประสบภัยธรรมชาติ และการพักผ่อนตากอากาศ “เขาใหญ่” สถานที่ท่องเที่ยว และที่พักอาศัยซึ่งอยู่ไม่ห่างจาก กทม.มาก เดินทางสะดวก และไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม กลายเป็นทำเลที่มีการเติบโตของดีมานด์ที่อยู่อาศัยอันดับต้นๆ ในปัจจุบัน

            นายเฐาศิริษ ศิวาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินิคอล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เจ้าของ The Geenery Resort เขาใหญ่ และผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โบทานิก้า เขาใหญ่ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ และรายเล็กเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยตลาดหลักที่มีการพัฒนามีระดับราคาเริ่มต้น 4-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดเดียวกับโครงการ โบทานิก้า เขาใหญ่ที่บริษัทพัฒนา และปิดการขายไปแล้ว
            ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ทำให้การขยายตัวของดีมานด์ในพื้นที่เขาใหญ่สูงอย่าต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาซื้อขายที่ดินในย่านดังกล่าวถีบตัวอย่างแรง โดยนับจากปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาซื้อขายที่ดินปรับตัวสูงขึ้นถึง 60% โดยราคาที่ดินที่อยู่ห่างจากถนนใหญ่ออกไปจะมีราคาซื้อขายไร่ละ 5 ล้านบาทขึ้นไป จากที่ปีก่อนหน้ามีราคาอยู่ที่ 3 ล้านบาทต่อไร่ ขณะที่ราคาขายที่ดินติดถนนใหญ่มีราคาขายขยับขึ้นไปอยู่ที่ 10 ล้านบาทต่อไรไปแล้ว

 
 
 
 
 

 
 
 
 
            “นับตั้งแต่เขาใหญ่ ได้รับการส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้ามาบูมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้น อสังหาฯในพื้นที่ก็ขยายตัวตามมาอย่างมาก ดีมานด์ที่อยู่อาศัยจึงเพิ่มสูงต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นครอบครับใหม่”

              จากการขยายตัวของดีมานด์ดังกล่าว บริษัท จึงตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดฯ ผสมพูลวิลล่า สวนสนุก สวนน้ำ และคอมมูนิตี้มอลล์ โดยนำที่ดินสะสมจำนวน100 ไร่ในย่านเขาใหญ่มาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมิกซ์ยูสภายใต้ชื่อ “เขาใหญ่ฟอเรสต้า” โดยโครงการนี้เป็นการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของส่วนสนุก สวนน้ำ และคอมมูนิตี้มอลล์ บนพื้นที่87 ไร่ ซึ่งเดิมบริษัทได้มีการพัฒนาส่วนสนุกแบบ Adventure ภายใต้ชื่อ “ไรท์พาร์ค” อยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีแนวคิดต่อยอดการพัฒนาให้เป็นสวนสนุก และสวนน้ำ เพื่อรองรับลูกค้าครอบครัวขนาดเล็กที่มีไลฟสไตล์ชอบท่องเที่ยวและทำกิจกรรม Outdoor โดยโครงการ สวนน้ำ สวนสนุก และคอมมูนิตี้มอลล์นี้มีมูลค่ารวม1,700 ล้านบาท
             ส่วนการพัฒนาคอนโดมิเนียมและพูวิลล่าในโครงการนี้จะใช้พื้นที่ 13 ไร่ มีมูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท โดยจะพัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์สูง7ชั้น2อาคาร จำนวน 415 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้น25.45-56.7 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น1.6-5 ล้านบาท ส่วนพูวิลล่าจะมีจำนวน 19 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น10ล้านบาท ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการ(พรีเซล)โครงการ ฟอเรสต้า เขาใหญ่ในวันที่ 13-16 ธ.ค.นี้ ที่สยามพารากอน คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 50% และภายในกลางปี56จะสามารถปิดการขายโครงการได้ทั้งหมด