“วิไลลักษ์” บุกอสังหาฯ เขาใหญ่ เปิดภูผาธารา เขาใหญ่ โครงการมิกซ์ยูสทั้งโรงแรม วิลลา และคอนโด ฯมูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จที่ระยองภูผาธาราเขาใหญ่ ด้านโบ้ทเฮาส์ฯ อัดแคมเปญกระตุ้นยอดปลายปี ชี้ตลาดหัวหินดีมานด์พุ่ง ราคาที่ดินขยับกว่า 10% เชื่อ 2-3 ปีหัวหินโตก้าวกระโดด
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท วิไลลักษณ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ภายหลังประสบความสำเร็จด้านยอดขายโครงการภูผาธารา ระยอง ซึ่งเป็นโครงผสมผสานระหว่างวิลลา จำนวน 27 ยูนิต ปัจจุบัน เหลือขาย 7 ยูนิต และคอนโดมิเนียมกว่า 190 ยูนิต เหลือขาย 10% และในเดือนธันวาคมนี้ จะเปิดตัวโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa ในพื้นที่ติดกัน จำนวนห้องพัก 205 ห้อง ราคาห้วงช่วงไฮซีชัน ประมาณ 4,000 บาทต่อคืน
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “ภูผาธารา เขาใหญ่” เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อที่จากผู้ถือหุ้น จำนวน 70 ไร่ พัฒนาแบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วย วิลลา จำนวน 90 ยูนิต ราคาเริ่มต้นประมาณ 8 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 20%
ทั้งยังมีคอนโดมิเนียมสูง 4 ชั้นจำนวน 2 อาคาร รวม 63 ห้อง ราคาเริ่มต้น ตร.ม.ละ 59,500 บาท หรือ 3.54 ล้านบาท โดยในวันที่ 18-21 ต.ค นี้ ได้ออกบูทที่ Fashion Gallery ชั้น 1 สยามพารากอน พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษในช่วง Pre-sales ให้แก่ลูกค้าที่จองในงานอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 40% นอกจากนี้ ยังพัฒโรงแรมระดับ 5 ดาว ภายใต้เชน “DUSIT D2” รวมมูลค่าโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท
“โบ๊ทเฮ้าส์ฯ” อัดแคมเปญ
นายประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮาส์หัวหิน จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ย่านหัวหิน และชะอำในปัจจุบันมีความคึกคักมาก ราคาขายในปีนี้ปรับขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 10% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของโครงการ ฝั่งชะอำตอนเหนือฝั่งไม่ติดทะเลไร่ละ 3.5-4 ล้านบาท ฝั่งติดทะเลไร่ละ 5-6 ล้านบาท เขาตะเกียบประมาณไร่ละ 70-80 ล้านบาท ถือว่าหาดกว้างที่สุด และสวยที่สุด โซนชะอำประมาณไร่ละ 35 ล้านบาท เขาเต่าประมาณไร่ละ 25 ล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ที่ดินในหัวหิน และชะอำมีราคาสูงเนื่องจากธรรมชาติยังสมบูรณ์ มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เหมาะกับครอบครัว
คาดว่าในอนาคต 2-3 ปี อสังหาฯ ย่านหัวหิน และชะอำจะเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยล่าสุด เดอะ มอลล์ กรุ๊ป ประกาศจะเข้าไปลงทุนห้างสรรพสินค้า “บลู พอร์ต” และหัวหิน รีสอร์ทมอลล์ ซึ่งจะทำให้คนกรุงเทพฯ เข้าไปอยู่หัวหินอีกมาก และจะยิ่งเสริมให้หัวหินเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีความเจริญอย่างมากในอนาคต
นายประไพสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด โครงการ “เดอะ เลจเจ้นท์ บาย โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน” ยอดจองอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 900 ล้านบาท ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการบ้านหลังที่สองของคนกรุงเทพฯ ล่าสุด เตรียมจัดงานกระตุ้นยอดขายภายใต้ชื่องาน “Real Life Real Happiness” ในวันที่ 26-28 ณ แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ 20 ยูนิตแรกรับแพกเกจทัวร์ไปโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส พร้อม Pocket Money สูงสุด 2-4 แสนบาท ตั้งเป้ายอดขายภายในงาน 300 ล้านบาท หรือราว 15 ยูนิต สำหรับโครงการนี้คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีหน้า
นอกจากนี้ ในปี 56 เตรียมเปิดตัวอาคารใหม่สไตล์ Art Deco รองรับความต้องการลูกค้ากลุ่ม B+ และ A บนเนื้อที่ 6 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบ มั่นใจความต้องการที่อยู่อาศัยตากอากาศเมืองติดทะเลโตต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อมีการเปิด AEC จะมีกลุ่มลูกค้าเอเชียที่ต้องการย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองไทยอีกเป็นจำนวนมาก
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท วิไลลักษณ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ภายหลังประสบความสำเร็จด้านยอดขายโครงการภูผาธารา ระยอง ซึ่งเป็นโครงผสมผสานระหว่างวิลลา จำนวน 27 ยูนิต ปัจจุบัน เหลือขาย 7 ยูนิต และคอนโดมิเนียมกว่า 190 ยูนิต เหลือขาย 10% และในเดือนธันวาคมนี้ จะเปิดตัวโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa ในพื้นที่ติดกัน จำนวนห้องพัก 205 ห้อง ราคาห้วงช่วงไฮซีชัน ประมาณ 4,000 บาทต่อคืน
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “ภูผาธารา เขาใหญ่” เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อที่จากผู้ถือหุ้น จำนวน 70 ไร่ พัฒนาแบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วย วิลลา จำนวน 90 ยูนิต ราคาเริ่มต้นประมาณ 8 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 20%
ทั้งยังมีคอนโดมิเนียมสูง 4 ชั้นจำนวน 2 อาคาร รวม 63 ห้อง ราคาเริ่มต้น ตร.ม.ละ 59,500 บาท หรือ 3.54 ล้านบาท โดยในวันที่ 18-21 ต.ค นี้ ได้ออกบูทที่ Fashion Gallery ชั้น 1 สยามพารากอน พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษในช่วง Pre-sales ให้แก่ลูกค้าที่จองในงานอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 40% นอกจากนี้ ยังพัฒโรงแรมระดับ 5 ดาว ภายใต้เชน “DUSIT D2” รวมมูลค่าโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท
“โบ๊ทเฮ้าส์ฯ” อัดแคมเปญ
นายประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮาส์หัวหิน จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ย่านหัวหิน และชะอำในปัจจุบันมีความคึกคักมาก ราคาขายในปีนี้ปรับขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 10% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของโครงการ ฝั่งชะอำตอนเหนือฝั่งไม่ติดทะเลไร่ละ 3.5-4 ล้านบาท ฝั่งติดทะเลไร่ละ 5-6 ล้านบาท เขาตะเกียบประมาณไร่ละ 70-80 ล้านบาท ถือว่าหาดกว้างที่สุด และสวยที่สุด โซนชะอำประมาณไร่ละ 35 ล้านบาท เขาเต่าประมาณไร่ละ 25 ล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ที่ดินในหัวหิน และชะอำมีราคาสูงเนื่องจากธรรมชาติยังสมบูรณ์ มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เหมาะกับครอบครัว
คาดว่าในอนาคต 2-3 ปี อสังหาฯ ย่านหัวหิน และชะอำจะเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยล่าสุด เดอะ มอลล์ กรุ๊ป ประกาศจะเข้าไปลงทุนห้างสรรพสินค้า “บลู พอร์ต” และหัวหิน รีสอร์ทมอลล์ ซึ่งจะทำให้คนกรุงเทพฯ เข้าไปอยู่หัวหินอีกมาก และจะยิ่งเสริมให้หัวหินเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีความเจริญอย่างมากในอนาคต
นายประไพสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด โครงการ “เดอะ เลจเจ้นท์ บาย โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน” ยอดจองอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 900 ล้านบาท ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการบ้านหลังที่สองของคนกรุงเทพฯ ล่าสุด เตรียมจัดงานกระตุ้นยอดขายภายใต้ชื่องาน “Real Life Real Happiness” ในวันที่ 26-28 ณ แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ 20 ยูนิตแรกรับแพกเกจทัวร์ไปโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส พร้อม Pocket Money สูงสุด 2-4 แสนบาท ตั้งเป้ายอดขายภายในงาน 300 ล้านบาท หรือราว 15 ยูนิต สำหรับโครงการนี้คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีหน้า
นอกจากนี้ ในปี 56 เตรียมเปิดตัวอาคารใหม่สไตล์ Art Deco รองรับความต้องการลูกค้ากลุ่ม B+ และ A บนเนื้อที่ 6 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบ มั่นใจความต้องการที่อยู่อาศัยตากอากาศเมืองติดทะเลโตต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อมีการเปิด AEC จะมีกลุ่มลูกค้าเอเชียที่ต้องการย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองไทยอีกเป็นจำนวนมาก