xs
xsm
sm
md
lg

คิดต่าง สร้างเงิน สไตล์เจ้าพ่อ“สามารถ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์
หากเอ่ยชื่อ “วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” บิ๊กบอส แห่งบมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักโดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการไอที เพราะวัฒน์ชัย ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปลุกปั้นโทรศัพท์มือถือ ไอ-โมบาย จนติดตลาด มียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 300,000 เครื่อง ทั้งที่ในช่วงแรกของการทำตลาดแทบจะไม่มีใครสนใจไอ-โมบายเลย
วัฒน์ชัย กล่าวถึงความสำเร็จของการทำตลาดโทรศัพท์มือถือ ไอ-โมบาย ว่า เพราะสไตล์การทำงานของตัวเองไม่เหมือนใคร ชอบคิดต่าง หาอะไรที่แปลกใหม่ทำ ทำงานอะไรที่รู้สึกท้าทาย ทำให้เราได้คิดค้น ค้นคว้าหาวิธีการใหม่ในการทำตลาด และจากประสบการณ์ของตัวเอง ก็พบว่าสิ่งที่เราทำ เราคิด นั้นมาถูกทางแล้ว เพราะปัจจุบัน ไอ-โมบาย ประสบความสำเร็จ แบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงกว้าง
ส่วนแนวทางการทำงานนั้น วัฒน์ชัย บอกว่า “ไม่ใช่แค่คิดต่างเฉพาะแนวทางการทำงานเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จ แต่ต้องคิดทุกอย่าง อย่างละเอียดรอบคอบ มองให้ทะลุ ตั้งแต่มองว่าธุรกิจอะไรที่น่าสนใจ มีอนาคตดี มีโอกาสเติบโตสูง มีช่องว่างทางการตลาด ที่สำคัญมีโอกาสประสบความสำเร็จในเวลาไม่นานมากนัก” วัฒน์ชัย เผยเคล็ดลับความสำเร็จของการปลุกปั้น ไอ-โมบาย"
เมื่อธุรกิจไอทีประสบความสำเร็จ วัฒน์ชัย ก็เริ่มมองหาธุรกิจใหม่ทำต่อ โดยย้อนหลังไป 5-6 ปีก่อน ก็เข้ามาบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะในอดีตเคยช่วยครอบครัวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเห็นว่าสามารถสร้างยอดขายและผลกำไรได้ไม่ยากนัก แถมเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ ในอดีตเคยจัดสรรที่ดินขาย มีกำไรหลักร้อยล้านบาทเลยทีเดียว
ดั้งนั้น จึงจัดตั้ง บริษัท วิไลลักษณ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ขึ้นมา เพื่อลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ ยูส(Mix-use) ซึ่งการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ใช้คอนเซ็ปต์เดียวกับการลงทุนในธุรกิจไอที คือมองว่าเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดี มีอนาคตไกล ตัวเลขผลกำไร 2 หลักขึ้นไปแน่นอน เพราะมีประสบการณ์และใช้เวลาศึกษาความเป็นไปได้อย่างรอบครอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน
วัฒน์ชัย บอกว่า การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโทรศัพท์มือถือไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะการทำตลาดต้องคำนึงถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายว่าต้องการอะไร มองลูกค้าให้ออก วิเคราะห์ตลาดให้ชัดเจน เพียงแต่เป็นลูกค้าคนละกลุ่มเท่านั้น
“ธุรกิจไอทีมีข้อดีตรงที่มีคู่แข่งขันไม่กี่ราย และคู่แข่งรายใหม่เข้ามายาก ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การแข่งขันค่อนข้างรุนแรง เพราะการเข้ามาในธุรกิจง่ายมาก เห็นจากผู้ประกอบการบางราย แค่มีที่ดิน และเงินทุนก็สามารถเข้ามาทำธุรกิจได้แล้ว จึงทำให้การแข่งขันค่อนข้างสูง”
ส่วนรูปแบบการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น เนื่องจากการแข่งขันในกรุงเทพฯค่อนข้างรุนแรง และมองว่าในต่างจังหวัดมีศักยภาพสูง วิไลลักษณ์ฯจึงเลือกไปลงทุนโครงการในต่างจังหวัด โดยเลือกลงทุนโครงการที่จังหวัดระยองเป็นแห่งแรก แต่ด้วยสไตล์การทำธุรกิจของวัฒน์ชัยนั้น ต้องแตกต่าง ฉีกจากผู้ประกอบการรายอื่น ดังนั้น หากจะไปลงทุนโครงการบ้านจัดสรร เพื่อขายเหมือนโครงการทั่วไป ก็ไม่ใช่สไตล์ที่ถนัดแน่นอน โครงการของวิไลลักษณ์ที่บริหารโดยวัฒน์ชัย จึงถูกออกแบบมาเป็น โครงการมิกซ์ ยูส (Mix-Use) ชื่อโครงการภูผาธารา ระยองซึ่งภายในโครงการมีทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโรงแรม ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมีศักยภาพ ติดชายทะเล จังหวัดระยอง
ไม่เพียงแค่ทำโครงการแบบมิกซ์ ยูส เท่านั้น แต่การลงทุนโครงการยังมีทั้งเพื่อขายและเพื่อเช่า เพราะไม่ต้องขายหมด ปิดโครงการแล้วเลิกเลย แต่ยังต้องการดูแลลูกค้าต่อไปแม้ว่าจะขายหมดแล้ว บริษัทจึงตัดสินใจพัฒนาโรงแรม Rayong Marriott Resort&Spa ในพื้นที่ติดกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มาพักในโครงการ ภูผาธารา ระยอง และนักท่องเที่ยว เพราะผู้พักอาศัยจำนวนมากต้องการบริการอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆซึ่งในโรงแรมมีบริการพร้อม
การลงทุนโครงการดังกล่าว นอกจากจะสะท้อนแนวคิดว่า ต้องการทำธุรกิจแบบไม่ทิ้งลูกค้าแล้ว ในทางธุรกิจบริษัทจะมีรายได้จาก 2 ช่องทาง คือ จากการขาย และการเช่า ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอและระยะยาว
วัฒน์ชัย ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท วิไลลักษณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อโครงการภูผาธารา ระยอง ประสบความสำเร็จ บริษัทจึงตัดสินใจนำแลนด์แบงก์ที่เขาใหญ่ จำนวน 70 ไร่ มาพัฒนาเป็นโครงการ ภูผาธารา เขาใหญ่ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบโครงการนี้ ก็จะแตกต่างจากการลงทุนโครงการของผู้ประกอบการทั่วไปเช่นเดียวกัน โดยโครงการนี้ถูกออกแบบให้เป็นมิกซ์ ยูส์ เช่นเดียวกับโครงการภูผาธารา ระยอง
ภายในโครงการประกอบด้วย วิลล่า 90 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาทขึ้นไป คอนโดมิเนียม 2 อาคาร จำนวน 63 ยูนิต ราคา3.5 ล้านบาทขึ้นไป เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป และมีโรงแรม DUSIT D2 ให้บริการลูกค้าและนักท่องเที่ยวด้วย
โดยลักษณะโครงการจะออกแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นความเรียบง่าย อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งหลังคาวิลล่า จะปลูกต้นหญ้าปกคลุม เพื่อลดความร้อนเข้าสู่อาคาร อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานด้วย
จากนี้ไปคงจับตาดูว่า ก้าวต่อไปของวัฒน์ชัยจะไปในทิศทางใด แต่ที่แน่ ๆ การลงทุนใหม่ ๆ ไม่เหมือนใครแน่นอน ซึ่งมีแนวคิดมาจากพันธมิตรทางธุรกิจ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแนวโน้มความเป็นไปได้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่รับรองว่า แตกต่างจากนักธุรกิจทั่วไปอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น