CBRE ระบุอสังหาฯ เมืองพัทยาคึกคัก ดีมานด์ที่อยู่อาศัยไฮเอนด์พุ่งสูงตามการขยายตัวการท่องเที่ยว ชี้ราคาที่ดินพุ่ง 30-40 ล้านบาทต่อไร หรือขยับสูงกว่า 1 เท่าตัวจากปี 51 ด้าน “วีรันดา” ลุยผุดโครงการมิกซ์ยูส “วีรันดา บีช พัทยา” คอนโดมิเนียมหรูผสมผสานโรงแรม 5 ดาว มูลค่า 3,000 ล้านบาท รองรับดีมานด์บ้านหลังที่ 2-บานพักตากอากาศ มั่นใจ 3 เดือนแรกสร้างยอดขาย 50% คาดปิดการขายภายใน 2 ปีก่อนก่อสร้างเสร็จ
น.ส.อริวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีริชาร์ด เอลริช ไประเทศไทย (CBRE) กล่าวว่า ภายหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยากลับมาคึกคักอีกครั้ง และเริ่มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2553 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงปี 55 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูงได้ส่งผลให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในกลุ่มคอนโดมิเนียมขยายตัวอย่างสูง ขณะเดียวกัน ซัปพลายใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยาจากการเข้ามาลงทุนของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั้งรายใหญ่ รายากลาง และรายเล็ก ตลอดจนผู้ประกอบการในพื้นที่มีการพัฒนาโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก
ทั้งนี้ ปัจจุบันซัปพลายที่สร้างเสร็จแล้วในเมืองพัทยามีจำนวน 41,000 ยูนิต โดยในกลุ่มนี้สามารถขายออกแล้ว 80% ขณะที่โครงการเปิดใหม่มีอัตราการระบายออกเฉลี่ยอยู่ที่ 60% โดยทำเลที่ได้รับความนิยม และมีการลงทุนโครงการใหม่ ประกอบด้วย หาดจอมเทียน จอมเทียนซิตี้ ซึ่งมีโครงการทุกระดับราคาเข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ในโซนที่มีการพัฒนาของกลุ่มคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ คือ ทำเลนาจอมเทียน และวงส์อมาตย์ ซึ่งมีจำนวนซัปพลายเข้าสู่พื้นที่เพียง7% เท่านั้น
“จากการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้นถึง 7% ในปี 55 หรือมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพัทยากว่า 8 ล้านคนต่อปี และยังมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการที่พักอาศัยขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน และรัสเซีย จากการเก็บสถิติของ CBRE พบว่า ความต้องการซื้อคอนโดฯ ในเมืองพัทยาขยายตัวสูงขึ้น แต่เป็นความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ส่วนความต้องการซื้อเพื่อการลงทุนมีจำนวนน้อยมาก”
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด กล่าวว่า การขยายตัวของความต้องการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะความต้องการบ้านพักตากอากาศ และบ้านหลังที่ 2 ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในพัทยา หลังจากที่บริษัทพยายามหาที่ดินในพัทยาเพื่อลงทุนโครงการใหม่มานาน ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการวีรันดา บีช พัทยา โครงการมิกซ์ยูสคอนโดมิเนียมผสมผสานโรงแรม มูลค่า 3,000 ล้านบาทเศษ โดยโครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมจำนวน 360 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 3 ล้านบาท มูลค่า 2,000 ล้านบาท โรงแรม 149 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท และพลูวิลลา 4 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท มูลค่ากว่า 64 ล้านบาท
สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่พัฒนาโครงการ 6 ไร่ แบ่งการพัฒนาเป็น 2 ส่วนคือ โรงแรมซึ่งจะตั้งอยู่ด้านหน้าของโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว อัตราค่าพักต่อคืนอยู่ที่ 5,000-7,000 บาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเปิดตัวระหว่างวันที่ 12-13 ตุลาคมนี้ โดยคาดว่าในช่วง 3 เดือนจากนี้จะสามารถสร้างอยู่ขายได้กว่า 50% ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยปิดการขายก่อนงานก่อสร้างแล้วเสร็จ โดดยการก่อสร้างโครงการนี้จะใช้เวลา 2 ปี หรือจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2558
“แนวโน้มการขยายตัวของความต้องการห้องชุดในเมืองพัทยา และการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองพัทยา ส่งผลให้ที่ดินปรับราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2551 ราคาขายต่อไร่อยู่ที่ 20 ล้านบาท แต่ปัจจุบันราคาขายที่ดินติดริมหาดอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่จะยิ่งมีราคาขายสูงตามไปด้วย”
นายวีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาโครงการใหม่ในเมืองพัทยา เป็นการรองรับความต้องการฐานลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม นอกจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทแล้ว ยังมุ่งเป้ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้น บริษัทจึงมอบหมายหน้าที่การออกแบบ และการบริหารการขายให้ CBRE เข้ามาช่วย โดยเชื่อว่าการดึง CBRE เข้ามานี้จะช่วยดึงลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้อห้องชุดในโครงการด้วย
