ลุ้น! ส่งท้ายปีมังกรทอง แสนสิริจะปรับเป้าขายอีกหรือไม่! หลังล่าสุด ตัดสินใจเพิ่มยอดขายเป็น 42,000 ล้านบาท จากตัวเลขเดิมในเดือน ต.ค. 40,000 ล้านบาท แจงเหตุสามารถปิดการขายโครงการใหม่ทั้งใน กทม.-ตจว. เผย “ดีคอนโดไมน์ ภูเก็ต” แค่ 1 ชั่วโมงเกลี้ยง
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการพิจารณาและปรับแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในปี 2555 ครั้งล่าสุดเพื่อให้สอดรับกับผลการดำเนินงานของบริษัทซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี โดยล่าสุด บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงกว่าเป้าหมายที่เคยประกาศปรับไว้ในช่วงเดือนตุลาคม คือ 40,000 ล้านบาท เป็นเป้าหมายใหม่ที่ 42,000 ล้านบาท จากยอดขายในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทสามารถทำไปได้แล้วถึง 40,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่มีการปรับล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากการเปิดตัวโครงการใหม่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 เช่น โครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เทอร์ทีไนน์ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ปิดการขาย 100% ทันทีในช่วงพรีเซลล์, โครงการเดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ-ขอนแก่น มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท ปิดการขายได้ภายในครึ่งวันแรกที่เปิดพรีเซลล์, โครงการเดอะ เบส พาร์คเวสต์ สุขุมวิท 77 ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 80% ในช่วงพรีเซลล์ จากมูลค่าโครงการรวม 1,500 ล้านบาท รวมถึงโครงการล่าสุดในจังหวัดภูเก็ต “ดีคอนโด ไมน์” จำนวนทั้งสิ้น 436 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 740 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงที่เปิดพรีเซลล์ที่ Sale Gallery ถนนพระภูเก็ตแก้ว จ.ภูเก็ตในวันที่ 1 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา
“การประกาศปรับเป้าหมายยอดขายเป็น 42,000 ล้านบาทในครั้งนี้ นับเป็นครั้งล่าสุดจากที่ทยอยปรับเพิ่มมาตั้งแต่ต้นปี โดยภายหลังจากที่บริษัทดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายมาแล้ว 2 เดือน ปรากฏว่า บริษัทสามารถสร้างยอดไปได้ถึง 14,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายไตรมาสสุดท้ายซึ่งตั้งไว้เดิมเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เป็นยอดขายรายไตรมาสทุบสถิติที่สูงที่สุดที่บริษัทเคยทำได้ในช่วงไตรมาสเดียว ณ ขณะนี้ ขณะที่เป้าหมายยอดขายใหม่ 42,000 ล้านบาทนั้น หากสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี นั่นหมายถึงการเติบโตของยอดขายที่สูงขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังเป็นการทุบสถิตินับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ดังนั้น จึงนับว่าในปีนี้เป็นปีที่บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากที่สุด” นายเศรษฐากล่าว
อนึ่ง แสนสิริฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 55 ระบุว่า รวมรายได้ 5,280.154 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่าย 4,725.9 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 409.27 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนของปี 55 รวมรายได้ 16,030.55 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 14,231.26 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,199.51 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ขยับขึ้นมาสูงมาอยู่ที่ 28,030.75 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปลายปี 51 ที่ 2,534.66 ล้านบาท