บริษัททำธุรกิจเคมีภัณฑ์ “วิสแพค” เล็งขยายตลาดสู่ประเทศพม่า รับโครงการทวาย-เออีซี เล็งเช่าที่ดินยาว 75 ปี สร้างโรงงานเคมีภัณฑ์ และโรงงานประกอบบ้านน็อกดาวน์ คาดรูปแบบบ้านเดี่ยวราคา 6 แสนบาท ลุ้นบีโอไอพม่าผ่อนเกณฑ์นำเข้าเงิน และออกได้มากขึ้น พร้อมงัดที่ดินกว่า 100 ไร่ในกาญจนาบุรี ผุดรีสอร์ตรับการท่องเที่ยวบูม
นายจรัล เดชประทุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิสแพค จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจในการผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการให้บริการตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกอาคารกล่าวว่า ทางบริษัทมองหาลู่ทางขยายการลงทุนไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่ 2 ภายหลังจากเข้าไปบุกเบิกตลาดนอกประเทศที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มากว่า 10 ปีแล้ว โดยปัจจุบัน ธุรกิจที่กัมพูชายังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเข้าสู่ประเทศพม่าเพื่อรองรับกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่นักลงทุนในหลายประเทศให้ความสำคัญที่จะเข้ามาลงทุน ในส่วนของบริษัทกำลังเจรจาที่จะจัดซื้อที่ดินในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมของโครงการ ในเบื้องต้น จะมีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ ระยะเวลาการเช่า 75 ปี ลงทุนสร้างโรงงานเคมี หรือวัตถุดิบเพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทในประเทศไทย
รวมถึงโอกาสรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีการสร้างโรงงานที่เกี่ยวกับการผลิตบ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน็อกดาวน์ขึ้น รองรับบุคลากรในหลายประเทศที่เข้ามาทำงาน ทำให้เรื่องการอยู่อาศัยมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปแบบจะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดี่ยว ราคาประมาณ 6 แสนบาท ใช้เวลาก่อสร้างตกแต่งให้เรียบร้อยเสร็จภายใน 1 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้เชี่ยวชาญในไทยในการนำระบบดังกล่าวไปดำเนินการ
“เรากำลังมองโอกาสขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในงานก่อสร้าง รวมถึงวัสดุก่อสร้างในประเทศพม่า บริษัทฯ เคยมีประสบการณ์ลงทุนในต่างประเทศมาก่อนจึงมองเห็นโอกาสว่า อสังหาริมทรัพย์ในพม่า โดยเฉพาะกรุงย่างกุ้งจะมีโอกาสขยายตัวเหมือนกรุงพนมเปญ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะโรงแรมตอนนี้มีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างเยอะมาก จึงถือเป็นโอกาสอันสำคัญของเราที่จะนำเทคโนโลยี และความชำนาญที่มีอยู่ในประเทศไทยไปขยายธุรกิจในต่างแดน ซึ่งในการลงทุนในโครงการทวาย คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 40-50 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงาน แต่สิ่งที่เรากังวล คงเป็นเรื่องเงินไหล และเข้าออกในพม่า ซึ่งต้องดูว่าหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน หรือ MIC ที่มีรูปแบบคล้ายบีโอไอของไทย จะให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนอย่างไรบ้าง” นายจรัลกล่าว
อนึ่ง บริษัท วิสแพคฯ ดำเนินธุรกิจหลักคือ ผู้ผลิต และจำหน่ายเคมีภัณฑ์สำหรับงานก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 รวมถึงการผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และให้บริการตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกอาคาร
นอกจากนี้ บริษัท วิสแพคฯ ยังมีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรองรับการเติบโตของที่อยู่อาศัยที่จะเติบโตมากยิ่งขึ้น ทั้งจากโครงการทวาย มีโครงการก่อสร้างถนนกาญจนบุรี-ทวาย และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งเปิดบริการภายใต้ชื่อ “บานาน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา” เนื้อที่กว่า 10 ไร่ นอกจากนี้ ยังเตรียมนำที่ดินกว่า 100 ไร่ ที่อยู่ติดกับรีสอร์ตมาพัฒนาภายใต้ชื่อโครงการ “ทวาย ริเวอร์แคว วัลเลย์” ในรูปแบบรีสอร์ต จำนวน 50-60 หลัง ราคาขายประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อหลัง คาดใช้เวลาดำเนินการปีกว่าจะแล้วเสร็จ
“ในอนาคต รายได้จากธุรกิจอสังหาฯ คงมีสัดส่วนรายได้ที่มากกว่าธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซึ่งเราวางเป้าไว้ บริษัทวิสแพคภายในสิ้นปี 2560 รายได้รวม 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท”