ธ.ไทยพาณิชย์ ยันสถาบันการเงินไทยมีความแข็งแกร่ง พร้อมรับการเข้าร่วม “ทีพีพี” เพราะมีความพร้อมทั้งฐานะเงินกองทุน ระบบบริหารจัดการเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล และอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ ธปท. กำหนด โดยเฉพาะกฎบาเซิล 3 ที่สะท้อนความแข็งแกร่ง
น.ส.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ และธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ต้องศึกษารายละเอียดของกรอบเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP ก่อนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ภาครัฐกำลังศึกษา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าภาคสถาบันการเงินมีความพร้อมทั้งฐานะเงินกองทุน ระบบบริหารจัดการ ซึ่งเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล และอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ ธปท.กำหนด เช่น กฎบาเซิล 3 ที่สะท้อนความแข็งแกร่งของธนาคารพาณิชย์
ส่วนการเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนนั้น จะต้องติดตามว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอย่างไร โดยมองว่าจะต้องใช้มาตรการทางการคลังเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจเช่นเดิม โดยผู้นำคนใหม่จะต้องเลือกลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านหยวนต่อไป ซึ่งการลงทุนจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น เหล็ก และอะลูมิเนียมสูงขึ้น
สำหรับการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) นั้น แนะนำให้ผู้ประกอบการไทยให้จับตาการเปลี่ยนผู้นำใหม่ของจีนว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนอย่างไร เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่ประสบภาวะเศรษฐกิจเช่นเดียวกับสหรัฐฯ และยุโรป
นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความรุนแรงในตะวันออกกลางที่จะมีผลกดดันราคาน้ำมันให้ผันผวนด้วย โดยการรวมตัวกันส่งผลดีและลบต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสินค้า การส่งออก การเคลื่อนย้ายเงินทุนซึ่งผู้ประกอบการไทยต้องปรับสมดุลการลงทุนให้เหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยเคยชินกับการหารายได้จากการส่งออกไปยังตลาดหลักทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่ภาครัฐเองต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินการคลังให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน