พีดีเฮ้าส์ เร่งปักธงสาขาภาคใต้ครบ7สาขา หวังยึดพื้นที่ตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศ ด้วยจำนวน 33 สาขาปีนี้ ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากกว่า 50 จังหวัด เชื่อมั่นตลาดภาคใต้แนวโน้มสดใส หลังรัฐบาลทุ่มงบพัฒนากว่า 40,000 ล้านบาท เผย 10 เดือนแรกตลาดรวมรับสร้างบ้านสะดุด เหตุผู้บริโภคกังวลน้ำท่วมซ้ำปีนี้ เชื่อ หลังน้ำไม่ท่วมแน่นอน กำลังซื้อจะกลับคืนช่วง 2 เดือนโค้งสุดท้าย
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 นี้บริษัทฯ เร่งขยายสาขาใหม่ๆ ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้มากขึ้น โดยเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ทำการเปิดสาขาใหม่เพิ่มทั้งฝั่งจังหวัดอันดามันและฝั่งจังหวัดอ่าวไทย แบ่งเป็นพื้นที่ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ สาขาสุราษฎร์ธานี , นครศรีธรรมราช , พัทลุง และสงขลา ส่วนพื้นที่ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต และกระบี่ ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาในพื้นที่ภาคใต้รวม 6 สาขา สามารถให้บริการรับสร้างบ้านครอบคลุมพื้นที่จังหวัดภาคใต้ได้ถึง 10 จังหวัด
“ ตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่จังหวัดภาคใต้มีแนวโน้มเติบโตได้ดีโดยเฉพาะเมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณลงไปในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทยเป็นเงินกว่า 40,000 ล้านบาท เพื่อจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคมเชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน อันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การเกษตร และการท่องเที่ยวซึ่งภาคใต้มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญๆ มากมาย โดยบริษัทฯ มองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยหรือสร้างบ้านเองจะเติบโตตามมา ดังนั้นจึงเร่งเปิดสาขาในจังหวัดต่างๆ ภาคใต้ก่อนเป็นรายแรก เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำของผู้บริโภคก่อน ในขณะยังไม่มีคู่แข่งรายใดขยายสาขาลงไปในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงเพื่อสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับเหมือนเช่นที่ทำสำเร็จมาแล้วในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน”
ที่ผ่านมา ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านในจังหวัดภาคใต้ หากจะเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านจากกรุงเทพฯ ราคาบ้านก็จะสูงกว่า 10-15% จากราคาปกติ เหตุเพราะผู้ประกอบการคิดค่าเดินทางและค่าขนส่งเพิ่มดังนั้น การที่บริษัทฯ ขยายสาขามายังพื้นที่จังหวัดภาคใต้ จึงทำให้ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้าน สามารถประหยัดเงินได้นับแสนบาทต่อหลัง ที่สำคัญบ้านที่ก่อสร้างทุกหลังจะได้รับดูแลควบคุมคุณภาพอย่างใกล้ชิดซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์สูงสุด
ปี2555 นี้บริษัทฯ ได้ทำการเปิด ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาใหม่แล้ว 7สาขา ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการแล้วรวม 31สาขา นอกจากนี้ยังเปิด ศูนย์รับสร้างบ้านเอคิวโฮม แบรนด์น้องใหม่อีก 2 สาขา และเร็วๆ นี้เตรียมเปิดพีดีเฮ้าส์สาขาที่ 32 และ 33 ที่จังหวัดตรัง และสาขาปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถให้บริการรับสร้างบ้านได้มากกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ
นายพิศาล กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ไม่เติบโตเท่าที่ควร เหตุเพราะผู้บริโภคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่เอาไว้ ด้วยกังวลว่าน้ำจะท่วมซ้ำอีกในปีนี้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่ากำลังซื้อจะกลับคืนมาในช่วงท้ายปีนี้ เพราะผู้บริโภคเริ่มคลายความกังวลเรื่องน้ำท่วม คาดว่าจะผลักดันให้มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านปีนี้น่าจะใกล้เคียง 10,000 ล้านบาท