ไออาร์พีซี ไตรมาส 3 ปีนี้โกยกำไร 2,140 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนขาดทุน 647 ล้านบาท ผลจากกำไรสต๊อกน้ำมันที่มีส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้น ขณะที่ปีก่อนเกิดผลขาดทุน แถมมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเพื่อค้าเพิ่มขึ้น
นางดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,141.72 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 646.69 ล้านบาท หรือผลงานเพิ่มขึ้น 2,788.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 431.18%
โดยมีรายได้จากการขาย 70,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2554 จำนวน 6,036 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจาก 15.52 ล้านบาร์เรล ในไตรมาส 3/2554 เป็น 16.75 ล้านบาร์เรล ในไตรมาส 3/2555 หรือเพิ่มขึ้น 8 % และราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1%
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) ในไตรมาส 3/2555 อยู่ที่ 6.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 4.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม LCM 1,712 ล้านบาท (3.32 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เทียบกับไตรมาส 3/2554 มีขาดทุนน้ำมันสุทธิรวม 1,959 ล้านบาท (4.00 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล)
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/2555 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 518 ล้านบาท กำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเพื่อค้าเพิ่มขึ้น 545 ล้านบาท กำไรจากการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 153 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคา และต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้นรวม 220 ล้านบาท
สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 975 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5,464 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 217,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 30,847 ล้านบาท หรือ 17 % ทั้งนี้ เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 50.29 ล้านบาร์เรล เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 44.61 ล้านบาร์เรล และราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ขณะเดียวกัน กำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาดปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 5.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 9.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลจากอุปสงค์ที่ลดลงจากปัญหาวิกฤตทางการเงินในยุโรป การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีน และสหรัฐอเมริกา และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม LCM 695 ล้านบาท (0.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรจากสต๊อกน้ามันสุทธิรวม LCM รวม 2,685 ล้านบาท (1.87 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล)
นอกจากนี้ งวด 9 เดือนแรกของปี 2555 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 562 ล้านบาท กำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเพื่อค้าเพิ่มขึ้น 593 ล้านบาท กำไรจากการกลับรายการด้อยค่า และจำหน่ายทรัพย์สินรวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 273 ล้านบาท ขณะที่ค่าเสื่อมราคา และต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น 868 ล้านบาท
นางดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,141.72 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 646.69 ล้านบาท หรือผลงานเพิ่มขึ้น 2,788.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 431.18%
โดยมีรายได้จากการขาย 70,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2554 จำนวน 6,036 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจาก 15.52 ล้านบาร์เรล ในไตรมาส 3/2554 เป็น 16.75 ล้านบาร์เรล ในไตรมาส 3/2555 หรือเพิ่มขึ้น 8 % และราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1%
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) ในไตรมาส 3/2555 อยู่ที่ 6.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 4.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม LCM 1,712 ล้านบาท (3.32 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เทียบกับไตรมาส 3/2554 มีขาดทุนน้ำมันสุทธิรวม 1,959 ล้านบาท (4.00 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล)
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/2555 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 518 ล้านบาท กำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเพื่อค้าเพิ่มขึ้น 545 ล้านบาท กำไรจากการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 153 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคา และต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้นรวม 220 ล้านบาท
สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 975 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5,464 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 217,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 30,847 ล้านบาท หรือ 17 % ทั้งนี้ เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 50.29 ล้านบาร์เรล เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 44.61 ล้านบาร์เรล และราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ขณะเดียวกัน กำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาดปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 5.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 9.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลจากอุปสงค์ที่ลดลงจากปัญหาวิกฤตทางการเงินในยุโรป การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีน และสหรัฐอเมริกา และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม LCM 695 ล้านบาท (0.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรจากสต๊อกน้ามันสุทธิรวม LCM รวม 2,685 ล้านบาท (1.87 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล)
นอกจากนี้ งวด 9 เดือนแรกของปี 2555 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 562 ล้านบาท กำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเพื่อค้าเพิ่มขึ้น 593 ล้านบาท กำไรจากการกลับรายการด้อยค่า และจำหน่ายทรัพย์สินรวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 273 ล้านบาท ขณะที่ค่าเสื่อมราคา และต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น 868 ล้านบาท