สายงานวางแผนและกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงาน SET Note Quarterly Corporate Update พบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 แม้ว่าบริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวมลดลงจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น และผลของการขาดทุนสต๊อกสินค้าคงคลังในกลุ่มทรัพยากร และสินค้าอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิที่ลดลงกระจุกตัวอยู่ในบริษัทขนาดใหญ่ในบางอุตสาหกรรม ขณะที่ภาพรวมของกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นยังคงขยายตัวดีจากยอดขายที่ปรับสูงขึ้น และพบว่าบริษัทจดทะเบียนกว่าครึ่งมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มกลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มบริการ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 บริษัทจดทะเบียนมียอดขายเพิ่มขึ้น 13.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในอัตราสูงกว่าส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับลดลง ประกอบกับบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งในกลุ่มทรัพยากร และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมมีผลขาดทุนสต๊อกสินค้าคงคลังตามราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และราคาเหล็กที่ปรับลดลงในช่วงปลายไตรมาส 2/2555 ส่งผลให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 346,602 ล้านบาท ลดลง 14.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับลดลงกระจุกตัวอยู่ในบริษัทขนาดใหญ่ในบางอุตสาหกรรม สะท้อนจากจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่มีผลกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ถึง 431 บริษัท คิดเป็น 79.37% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด โดยมีจำนวนบริษัทที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 282 บริษัท คิดเป็น 51.93% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด
สำหรับดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ปรับลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนทุกรายการ ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีชี้วัดฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนสะท้อนความเสี่ยงสูงขึ้นจากภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของธุรกิจ แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มั่นคงเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551-2552 และช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540-2541
ในด้านการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร บริษัทจดทะเบียนลงทุนต่อเนื่องโดยมีมูลค่าทั้งสิ้น 214,708 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ทั้งด้านมูลค่าการลงทุน และจำนวนบริษัทที่ลงทุนเพิ่ม ทั้งนี้ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น ยกเว้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง และกลุ่มที่เข้าข่ายฟื้นฟูกิจการ โดยกลุ่มที่มีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นในอัตราสูงคือ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
ด้านการระดมทุนจากตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในช่วงแรกของปี 2555 มีจำนวนบริษัทระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มขึ้น แต่มูลค่าการระดมทุนปรับลดลง โดยมีมูลค่ารวม 60,828 ล้านบาท ลดลง 11.69% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2555 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิ 131,314 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/2554 และลดลงเมื่อเทียบกับผลประกอบการไตรมาส 1/2555 เนื่องจากผลขาดทุนสต๊อกสินค้าคงคลัง และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนของกลุ่มทรัพยากร และสินค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/setresearch หรือสอบถามข้อมูลที่ S-E-T Call Center โทร. 0-2229-2222