ประชานิยม “รถคันแรก” ดันยอดใช้นํ้ามันพุ่ง ปชช. ไม่ประหยัด แถมต้องแบกภาระอุดหนุนดีเซล

ผู้บริหาร “บางจาก“ ยอมรับประชานิยม “รถคันแรก” ทําให้คนใช้นํ้ามันเพิ่ม ขณะที่ ปชช. ไม่ร่วมกันประหยัดพลังงาน คาดแนวโน้ม “ดีเซล” ปลายปีราคามีโอกาสปรับขึ้นอีก “มนูญ” คาดแนวโน้มราคานํ้ามันยังคงผันผวน อัดซ้ำนโยบายรถคันแรกดันยอดใช้ดีเซลสูงขึ้น หากรัฐบาลยังอุดหนุนโดยตรึงราคา จะยิ่งทำให้มีผู้ใช้มากขึ้น

นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล โดยยอมรับว่ามีผลทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น 4-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 3-5% เพราะประชาชนผู้ใช้ไม่ได้ประหยัดพลังงานเท่าที่ควร เนื่องจากรัฐบาลยังคงอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไว้ โดยในช่วงปลายปีนี้เชื่อว่าราคาน้ำมันดีเซลจะสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มีมากขึ้น ตามฤดูกาลในตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า

ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญพลังงานกล่าวว่า แนวโน้มราคาพลังงานในปีหน้าคาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงผันผวนตามปัจจัยในตลาดต่างประเทศ แต่อาจจะไม่สูงมากนัก หากเหตุการณ์ในตะวันออกกลางไม่รุนแรง รวมทั้งผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อนโยบายพลังงาน และเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้ในเอเชีย เช่นในประเทศจีน

ทั้งนี้ คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 105-110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ จะอยู่ที่ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ในขณะที่นโยบายรถคันแรกของรัฐบาลมีส่วนทำให้การใช้น้ำมันดีเซลสูงขึ้น และหากรัฐบาลยังคงอุดหนุนราคาดีเซลจะยิ่งทำให้มีผู้ใช้มากขึ้น