กบง.ถกบ่ายนี้เคาะรีดเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯหลังค่าการตลาดผู้ค้าพุ่งสูงเฉลี่ย 2 บาทต่อลิตร กลุ่มผู้ใช้เบนซินมีโอกาสลุ้นเหลือส่วนที่จะให้ลดราคาขายปลีกมากกว่าดีเซล เหตุดีเซลขณะนี้ยังชดเชยถึง 60 สตางค์ต่อลิตร
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันของผู้ค้าเฉลี่ยทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร ซึ่งถือเป็นระดับที่จะสามารถลดราคาขายปลีกน้ำมันลงมาได้ประมาณ 40-50 สตางค์ต่อลิตร แต่ทั้งนี้คงจะต้องรอการตัดสินใจจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่จะนัดประชุมเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงบ่ายของวันนี้ (20 ก.ย.) อีกครั้ง
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าส่วนของดีเซลอาจจะไม่มีการลดราคา เนื่องจากที่ผ่านมา กบง.ได้เห็นชอบนำเงินกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปชดเชยราคาดีเซลปัจจุบันลิตรละ 0.60 บาท ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่ กบง.จะลดการอุดหนุนราคาดังกล่าวลงมาแทนการลดราคาขายปลีก ขณะที่ กลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ กบง.อาจจะเรียกเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง และลดราคาขายปลีกให้ประชาชนส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะในส่วนของแก๊สโซฮอล์
“คงต้องรอ กบง.ตัดสินใจวันนี้ว่าจะมีผลทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในไทยลดลงมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มเบนซิน ที่จะมีโอกาสลุ้นมากกว่า เพราะดีเซลที่ผ่านมาได้ชดเชยราคาไปก็น่าจะลดการชดเชยลงมา ขณะที่แนวโน้มราคาตลาดโลกระยะสั้นทิศทางยังปรับลดลงหลังจากที่ซาอุดีอาระเบียเสนอเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อทำให้ราคาลดลงในการดูแลการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก” นายมนูญกล่าว
สำหรับสาเหตุที่ค่าการตลาดของผู้ค้าเริ่มสูงเนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มมีทิศทางปรับลดลง โดยราคาน้ำมันดิบปิดตลาด 19 ก.ย. 55 เวสต์เทกซัสลดลง 3.31 ปิดที่ 91.98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เบรนท์ลดลง 3.84 เหรียญฯ ต่อบาร์เรลปิดที่ 108.19 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ดูไบลดลง 1.03 ปิดที่ 110.69 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซิน 95 ลดลง0.72 เหรียญฯ ต่อบาร์เรลปิดที่ 124.18 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ดีเซลลดลง 0.55 เหรียญฯ ต่อบาร์เรลปิดที่ 129.78 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล
