กบง.ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91-95 ลด 40 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ ปตท.และบางจากปรับขึ้นราคาขายปลีกเฉพาะเบนซิน 91 ลิตรละ 50 สตางค์ และลดดีเซลลง 20 สตางค์ต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงานทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 55 ว่า กบง.ได้เห็นชอบลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ลงลิตรละ 40 สตางค์ จากที่เก็บแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 3.30 บาทต่อลิตรเป็น 2.90 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 จาก 1.70 บาทต่อลิตรเป็น 1.30 บาทต่อลิตร และดีเซลลิตรละ 50 สตางค์จากที่เก็บ 1.50 บาทต่อลิตรเหลือ 1บาทต่อลิตร เพื่อชะลอการปรับขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลที่ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
“ราคาน้ำมันตลาดโลกมีความผันผวนมากเนื่องจากมีกรณีอิหร่าน และการประท้วงในนอร์เวย์ที่มีผลให้น้ำมันจากทะเลเหนือหายไปจากระบบ ซึ่งจากการประชุม กบง.ครั้งที่แล้วคือ 12 ก.ค.มาจนถึงวันที่ 17 ก.ค. ปรากฏว่าน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นถึง 4.40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เบนซินเพิ่มขึ้น 6 เหรียญต่อบาร์เรล และดีเซลเพิ่มขึ้น 3.44 เหรียญต่อบาร์เรล ทำให้ผู้ค้าต่างชาติมีการปรับขึ้นราคาขายปลีกไปแล้ว กบง.จึงต้องลดเก็บเงินกองทุนฯ เพื่อดูแลราคาขายปลีก” นายณอคุณกล่าว
ทั้งนี้ การลดเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าวส่งผลให้เงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลดลงจากเดิม 148 ล้านบาทต่อวันเป็น 115 ล้านบาทต่อวัน หรือลดลง 33 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดยังคงติดลบประมาณ 15,900 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าฐานะกองทุนน้ำมันฯ จะกลับมาเป็นบวกในช่วงสิ้นปีได้หรือไม่เพราะต้องดูว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะเป็นเช่นใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปตท. และบางจากได้แจ้งปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 อีกลิตรละ 50 สตางค์อยู่ที่ 42.55 บาทต่อลิตร และปรับลดราคาดีเซลลง 20 สตางค์เหลือ 29.63 บาทต่อลิตร โดยจะมีผลพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) เป็นต้นไป
