xs
xsm
sm
md
lg

สแตนชาร์ดร่วมชิงตลาด SME ชูเครือข่าย ตปท.แกร่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ขยับรุกธุรกิจเอสเอ็มอีในไทย นำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งสินเชื่อ-บริหารจัดการเงิน ชูจุดแข็งเครือข่ายต่างประเทศแกร่งมี 1,200 สาขา ใน 70 ประเทศทั่วโลก คาดสิ้นปีสินเชื่อแตะ 1.5 หมื่นล้าน

นายแรมกี้ ซับรามาเนียน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT) เปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนงานที่จะรุกทำธุรกรรมทางการเงินในส่วนของผู้ประกอบการขนาดกลาง และย่อม (เอสเอ็มอี) ในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากเห็นแนวโน้มในการขยายธุรกิจเอสเอ็มอีที่เพิ่มมากขึ้น

“ธนาคารเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ถึง 40% ของจีดีพีไทย จึงจะให้ความสำคัญกับธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ ภายใต้แนวคิด “ซิมพลิซิตี” เน้นตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้การดำเนินธุรกิจเป็นเรื่องง่าย คล่องตัว รวดเร็ว และช่วยสร้างเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจ”

นายคริสโตเฟอร์ เดโล หัวหน้าฝ่ายบริการธุรกิจเอสเอ็มอี กลุ่มธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ต่อไปตัวเลขธุรกรรมระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการค้า หรือลงทุนที่่จะเกิดขึ้นระหว่างประเทศในอาเซียนด้วยกัน จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากรับการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) และการย้ายฐานการส่งออกจากยุโรป และสหรัฐฯ มาหาตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นประเทศที่ธนาคารปูฐานในการดำเนินธุรกิจไว้แล้ว ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง ทำให้สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า จะเป็นธนาคารหลักระดับสากลสำหรับเอสเอ็มอี และขยายพอร์ตโฟลิโอเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 2-3 ปีข้างหน้า

คาดสิ้นปีพอร์ตแตะ 1.5 หมื่นล.

นายเชวง เศรษฐพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารจะนำเสนอให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนั้น มีทั้งส่วนของสินเชื่อซึ่งแบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อธุรกิจแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่สามารถอนุมัติได้ใน 3 วัน ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 48 เดือน และสินเชื่อหมุนเวียนที่สามารถอนุมัติได้ภายใน 5 วันทำการ วงเงินสูงสุด 5 เท่าของหลักทรัพย์ค้ำประกันที่เป็นเงินฝาก

พร้อมกันนั้น ก็ได้บริการทางด้านธุรกรรมทางการเงินด้านอื่นๆ อย่างครบถ้วน เช่น บริการด้านอัตราแลกเปลี่ยน และการบริหารจัดการด้านการเงิน โดยมีส่วนลดค่าธรรมเนียมในการใช้บริการต่างๆ

ทั้งนี้ ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ระด้บ 14,000 ล้านบาท มีจำนวนลูกค้า 10,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ใช้ธุรกรรมการเงิน และอีก 500 รายเป็นลูกค้าในกลุ่มนำเข้า และส่งออก ซึ่งธนาคารต้องการที่จะขยายในกลุ่มลูกค้าเทรดดิ้งดังกล่าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีจุดแข็งของการที่เป็นธนาคารระดับสากล มีเครือข่ายสาขาครอบคลุม 70 ประเทศทั่วโลกใน 1,200 สาขา โดยคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 15,000 ล้านบาท

นายเชวงกล่าวอีกว่า กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด จะเป็นกลุ่มที่มียอดขายต่อปี 8 ล้านบาท-1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มรายเล็กที่มียอดขาย 8 ล้านบาท-400 ล้านบาท และกลุ่มขนาดกลางมียอดขาย 400-1,200 ล้านบาท ขณะที่คุณภาพหนี้ หรือ NPL อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากอยู่ในระดับต่ำกว่า 1%

“เราคงไม่ได้เข้าไปแข่งอยู่ในจุดเดียวกับ local bank แต่เรามีจุดเด่นที่เรามีสาขาอยู่ใน 9 ประเทศ จาก 10 ประเทศในอาเซียน และมี 1,200 สาขาใน 70 ประเทศทั่วโลก ดังนั้น จึงรองรับได้ทั้งการที่ลูกค้าจะออกไปทำธุรกิจกับประเทศในอาเซียน และประเทศอื่นในอาเซียนจะเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งจะให้ความสะดวกได้ทั้งด้านเงิน และการทำธุรกรรมทางการเงิน”
กำลังโหลดความคิดเห็น