xs
xsm
sm
md
lg

“คีรี” เชื่อปี 56 บีทีเอสกำไรโตเท่าตัวจาก VGI และขายที่ดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บีทีเอส กรุ๊ป คาดกำไรสุทธิงวดปี 56 โตเท่าตัวจากปีก่อน เหตุรับรู้กำไรพิเศษขายหุ้นวีจีไอฯ บวกการขายที่ดินหาดกมลา และผลการดำเนินงานปกติเติบโตต่อเนื่อง แจงหลังเพิ่มพาร์ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนหุ้นบริษัทมากขึ้น รวมถือหุ้นประมาณ 15% จากที่ผ่านมาไม่ถึง 10% “คีรี” ยืนยันพร้อมเข้าประมูลรถไฟฟ้าปีหน้า จากความพร้อมฐานะการเงิน-ประสบการณ์

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิปี 2556 (เม.ย.55-มี.ค.56) จะเติบโตเท่าตัวจากปี 2555 (เม.ย.54-มี.ค.55) เนื่องจากบริษัทจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้นบริษัทวีจีไอ โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะบันทึกในไตรมาส 3/56 (ต.ค.55-ธ.ค.55) และกำไรจากการขายที่ดินที่หาดกมลา ประกอบกับผลการดำเนินงานปกติของบริษัทมีการเติบโต จากจำนวนผู้โดยสารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15%จากปีก่อน ซึ่งปัจจุบัน มียอดผู้โดยสารที่ใช้รถไฟฟ้าจำนวน 6.5 แสนคนต่อวัน

ทั้งนี้ จากการที่บริษัทได้มีการเพิ่มมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เป็นหุ้นละ 4 บาท จากเดิมที่หุ้นละ 0.64 บาทนั้น มีผลทำให้นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของ BTS เพิ่มเป็น 15% จากเดิมที่ไม่ถึง 10% และที่ผ่านมา บริษัทได้มีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนต่างประเทศต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท

สำหรับปีหน้า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเปิดประมูลเดินรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง คือ สายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ และสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ นั้น บริษัทมีความพร้อมในการเข้าประมูลงานจากประสบการณ์ที่ผ่านมา และมีเงินทุนเพียงพอในการเข้าประมูล ซึ่งบริษัทสามารถที่ระดมทุนด้วยตราสารทางการเงินหลายอย่าง โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ระดมทุนไปแล้วจำนวน 2.2 หมื่นล้านบาท โดยส่วนตัวมองว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นเส้นทางที่เร่งด่วนที่จะมีการดำเนินการมากที่สุด เพราะมีความต้องการใช้บริการจำนวนมาก

“จากนี้ไปบริษัทมุ่งเน้นทำธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้นักลงทุนมองว่าบริษัทเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน โดยบริษัทพยายามที่จะมีการแยกธุรกิจอื่นๆ ออกมา เช่น วีจีไอ ก็นำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนธุรกิจอสังหาฯ นั้นกำลังพิจารณาอยู่ โดยหากมีผู้สนใจที่จะซื้อที่ดินที่บริษัทถืออยู่ และให้ราคาที่ดีพร้อมที่จะขายออกไป จากบริษัทมองว่าธุรกิจอสังหาฯ นั้นมีการชะลอตัว แต่หากมีพันธมิตรสนใจเข้าร่วมบริหารเราก็พร้อมเปิดรับ”นายคีรีกล่าว

นายคีรี กล่าวว่า กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีการทำสัญญาการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร 30 ปี มูลค่ารวม 1.9 แสนล้านบาท ไว้พิจารณาหลังจากมีการยื่นคำร้องว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดทางอาญานั้น ไม่ได้สร้างความกังวลให้แก่บริษัท เพราะบริษัทเป็นผู้รับจ้าง และเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติ ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด และบริษัทก็สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องในอีก 17 ปีข้างหน้า โดยไม่นับรวมจากให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนรุงเทพมหานคร 30 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น