ตลาดสินค้าเกษตรฯ เผยราคาซื้อขายยางพาราในตลาดคึก สอดรับความต้องการยางของผู้ซื้อ ขณะพ่อค้ายางเร่งรับซื้อผลผลิตจากชาวสวน หนุนให้ราคายางในตลาดจริงปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งแรงบวกจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติเงิน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อแทรกแซงราคายางตุลาคมนี้
นายชาตรี สหเวชชภัณฑ์ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า “แนวโน้มราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ใน AFET มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เมื่อกลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา นับเป็นการส่งสัญญาณในเชิงบวกให้แก่การซื้อขายล่วงหน้า RSS3 โดยในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) มีความคึกคัก มีการปรับตัวพุ่งสูงขึ้นเหนือ 100 บาท นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์เป็นต้นมา และล่าสุด 19 ก.ย. ราคา RSS3 เดือนส่งมอบเมษายน 56 แตะระดับ 103.0 บาท/กิโลกรัม ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 2.15 บาท/กิโลกรัม ราคาซื้อขายล่วงหน้าอยู่ในช่วง 98.5-103.0 บาท/กิโลกรัม ซึ่งถือว่าราคาได้กลับมาสดใสอีกครั้ง
“ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา การซื้อขายล่วงหน้าใน AFET เป็นไปอย่างคึกคัก โดยการปรับตัวของราคาได้รับอิทธิพลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ QE3 ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมาตรการจำกัดปริมาณส่งออกยางพาราทุกชนิดในทุกบริษัทลง 10% โดยใช้ฐานการส่งออกปี 54 (ปริมาณการส่งออก 3,414,717,344 ล้านตัน) ทำให้มียอดสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามาก” นายชาตรีกล่าว
ขณะเดียวกัน พ่อค้ายางเร่งรับซื้อผลผลิตจากชาวสวน หนุนให้ราคายางในตลาดจริงปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติเงิน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อแทรกแซงราคายางในโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และยังให้เงินกู้ดอกเบี้ยวต่ำแก่ผู้ประกอบการอีกถึง 1.5 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งผลของปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคายางล่วงหน้าใน AFET ปรับตัวสูงขึ้นทันที ซึ่งสอดคล้องกับราคาในตลาดจริงที่น่าจะขยับตัว และคาดว่าในช่วงเวลานี้ปริมาณการซื้อขายยางจะมีการปรับตัวสอดรับกับปัจจัยในขณะนี้
ดังนั้น นับจากนี้คาดว่าการซื้อขายยางจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี ตลาดมีแผนที่จะทำตลาดเชิงรุกให้แก่นักลงทุน และผู้เกี่ยวข้องกับสินค้าให้เข้าถึงมากขึ้น เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะเข้ามาลงทุนในการสร้างผลตอบแทนอีกรูปแบบหนึ่ง
