ที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานรับซื้อพยุงราคายาง พร้อมอนุมัติให้เพิ่มวงเงินกู้ ธ.ก.ส.2 พันล้าน ตามโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยให้ ก.คลังค้ำประกัน และยกเว้นค่าธรรมเนียม พร้อมมอบหมาย “กิตติรัตน์” ประชุมพิจารณายุทธศาสตร์โดยเร็ว
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง รวมทั้งแนวทางและขั้นตอนการปฏิบัติงานตามโครงการในส่วนขององค์การสวนยาง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
โดยโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ขณะนี้มีสถาบันเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 3 จังหวัดรวมเป็น 52 จังหวัด มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 676 สถาบัน ซึ่งได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 611 แห่ง และองค์การสวนยางได้เปิดจุดรับซื้อยางตามโครงการเพิ่มขึ้น 11 จุด ที่ภาคใต้ 7 จุด ภาคตะวันออก 1 จุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จุด รวมปัจจุบันมีจุดรับซื้อยางรวมทั้งหมด 42 จุด
สำหรับการรับซื้อยางจากสถาบันเกษตรกร ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2555 องค์การสวนยางซื้อยางไปแล้ว 61,762 ตัน คงเหลือพื้นที่โกดังเก็บยางได้อีก 13,000 ตัน ซึ่งองค์การสวนยางได้ประสานหาสถานที่เก็บยางเพิ่มอีก 8,000 ตันแล้ว ส่วนการเบิกเงินกู้ องค์การสวนยางได้เบิกเงินเต็มจำนวน 10,000 ล้านบาทแล้ว
ส่วนปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินโครงการ เช่น 1. จุดรับซื้อขององค์การสวนยางยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องจากยังไม่มีโรงงานแปรรูปยางโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการปลูกยาง และสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการมาก 2. จุดรับซื้อขององค์การสวนยางอยู่ไกล ทำให้สถาบันเกษตรกรต้องแบกรับภาระค่าขนส่ง 3. การลงยาง ณ จุดรับซื้อล่าช้า สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรติดคิวในการลงยางทำให้ไม่สามารถส่งยางได้ภายใน 1 วัน ทำให้เกิดการสะสมและไม่สามารถขายยางที่เหลือต่อได้ เป็นต้น ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ได้มีการประชุมหารือและได้มอบหมายแก้ไขปัญหาแล้ว
พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้องค์การสวนยางกู้เงินจาก ธ.ก.ส. จากวงเงิน 5,000 ล้านบาท ในส่วนของสถาบันเกษตรกร จำนวน 2,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 เพื่อดำเนินการตามโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน และยกเว้นค่าธรรมเนียมในการค้ำประกัน
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง อย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (ก.น.ย.) เป็นประธานการประชุมร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรม ไปพิจารณาดำเนินการจัดทำรายละเอียดยุทธศาสตร์ ทั้งในด้านของการจัดระบบ สต๊อก ปริมาณการรับซื้อ และราคาที่เหมาะสม โดยให้มีการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว