ฮอท พอท เทรดวันแรกคึก ปิดเหนือจอง 1 บาท ด้านที่ปรึกษาแจงจากภาวะตลาดหุ้นดี-นักลงทุนสนใจหุ้นใหม่จำนวนมาก เหตุให้ผลอตอบแทนสูง-ธุรกิจเติบโตดี ด้าน บล.บัวหลวง เชื่อหุ้นเข้าใหม่กระแสตอบรับดียันสิ้นปีจากภาวะตลาดหุ้นไทยเอื้อ-นักลงทุนสนใจหุ้นจอง
บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก โดยเปิดตลาดที่ระดับ 3.90 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1.1 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 39.28% จากราคาจองที่ระดับ 2.80 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 4 บาทต่อหุ้น ปรับตัวต่ำสุดที่ระดับ 3.70 บาทต่อหุ้น และกลับมาปิดที่ระดับ 3.80 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือเพิ่มขึ้น 35.71% มูลค่าการซื้อขาย 673.74 ล้านบาท
นายประเสริฐ ภัทรดิลก กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT กล่าวว่า ราคาหุ้นของฮอท พอท ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจอง เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวดีขึ้น และนักลงทุนให้ความสนใจหุ้นเข้าใหม่ จากที่ผ่านมานั้น ให้ผลตอบแทนที่ดีในการลงทุน รวมถึงบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายสาขาภายใต้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักของประชาชน ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปขยายสาขา โดยบริษัทมีนโยบายที่จะเปิดสาขาปีละไม่ต่ำกว่า 20 สาขา และมีการปรับปรุงสาขาเดิม
น.ส.สกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ จากที่นักลงทุนมั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท และรายได้ของบริษัทมีการเติบโตที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาเติบโตปีละ 25-30% ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้เติบโตประมาณ 25-30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,470 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ เตรียมที่จะขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าขยายปีละประมาณ 20 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย กอปรกับบริษัทฯ จะเน้นแบรนด์ใหม่ เช่น ไดโดมอน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุง คาดว่าจะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังได้ช่วงไตรมาส 2-3 ปี 2556
สำหรับปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะมีการเปิดสาขาในต่างประเทศ แต่บริษัทมองว่า จะยังคงเน้นการเปิดสาขาในประเทศก่อนเป็นหลักก่อนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ทำให้มีการค้าขายระหว่างกันทำให้อาจมีร้านจากต่างประเทศมาเปิดในประเทศไทยมากขึ้น
***บล.บัวหลวงตลาดหุ้นไอพีโอสดใสยันสิ้นปี
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยว่า ภาวะการลงทุนในหุ้นใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะคึกคัก เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้น จากผลดีของการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการออกมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย จึงทำให้บริษัทต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการเตรียมตัวที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะพยามเร่งเพื่อให้ทันภายในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 1,280 จุด ซึ่งปัจจุบันก็ถึงแล้ว ซึ่งไม่ได้มองในเรื่องของปีนี้ แต่มองในเรื่องของดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าแล้ว โดยบริษัทคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 1,420 จุด เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยมีการเติบโตที่ดี โดยบริษัทคาดว่ากำไร บจ. ปีหน้าจะเติบโต 18% จากปีนี้ แต่ปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นไทยคือ เรื่องของปัญหาหนี้ยุโรปที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะรุนแรงอย่างไร
บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก โดยเปิดตลาดที่ระดับ 3.90 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1.1 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 39.28% จากราคาจองที่ระดับ 2.80 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 4 บาทต่อหุ้น ปรับตัวต่ำสุดที่ระดับ 3.70 บาทต่อหุ้น และกลับมาปิดที่ระดับ 3.80 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือเพิ่มขึ้น 35.71% มูลค่าการซื้อขาย 673.74 ล้านบาท
นายประเสริฐ ภัทรดิลก กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT กล่าวว่า ราคาหุ้นของฮอท พอท ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจอง เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวดีขึ้น และนักลงทุนให้ความสนใจหุ้นเข้าใหม่ จากที่ผ่านมานั้น ให้ผลตอบแทนที่ดีในการลงทุน รวมถึงบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายสาขาภายใต้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักของประชาชน ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปขยายสาขา โดยบริษัทมีนโยบายที่จะเปิดสาขาปีละไม่ต่ำกว่า 20 สาขา และมีการปรับปรุงสาขาเดิม
น.ส.สกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ จากที่นักลงทุนมั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท และรายได้ของบริษัทมีการเติบโตที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาเติบโตปีละ 25-30% ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้เติบโตประมาณ 25-30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,470 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ เตรียมที่จะขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าขยายปีละประมาณ 20 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย กอปรกับบริษัทฯ จะเน้นแบรนด์ใหม่ เช่น ไดโดมอน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุง คาดว่าจะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังได้ช่วงไตรมาส 2-3 ปี 2556
สำหรับปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะมีการเปิดสาขาในต่างประเทศ แต่บริษัทมองว่า จะยังคงเน้นการเปิดสาขาในประเทศก่อนเป็นหลักก่อนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ทำให้มีการค้าขายระหว่างกันทำให้อาจมีร้านจากต่างประเทศมาเปิดในประเทศไทยมากขึ้น
***บล.บัวหลวงตลาดหุ้นไอพีโอสดใสยันสิ้นปี
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยว่า ภาวะการลงทุนในหุ้นใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะคึกคัก เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้น จากผลดีของการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการออกมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย จึงทำให้บริษัทต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการเตรียมตัวที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะพยามเร่งเพื่อให้ทันภายในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 1,280 จุด ซึ่งปัจจุบันก็ถึงแล้ว ซึ่งไม่ได้มองในเรื่องของปีนี้ แต่มองในเรื่องของดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าแล้ว โดยบริษัทคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 1,420 จุด เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยมีการเติบโตที่ดี โดยบริษัทคาดว่ากำไร บจ. ปีหน้าจะเติบโต 18% จากปีนี้ แต่ปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นไทยคือ เรื่องของปัญหาหนี้ยุโรปที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะรุนแรงอย่างไร