บล.บัวหลวง เผยแผนปีนี้เน้นขยายฐานนักลงทุนหน้าใหม่โต 30% จากปีก่อนที่ 3.9 หมื่นบัญชี แจงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 4.7 หมื่นบัญชี พร้อมรับพนักงานใหม่เสริมทีมแนะนำการลงทุน หวังมาร์เกตแชร์ปีนี้ 5% จากปีก่อน 4.7%
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานบริษัทปีนี้จะเน้นในเรื่องการขยายฐานนักลงทุนรายใหม่มากขึ้น ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2554 ที่มี 3.9 หมื่นบัญชี เนื่องจากบริษัทได้มีการให้ความรู้เรื่องการลงทุนให้แก่กลุ่มนักศึกษา และทายาทนักธุรกิจ โดยการจัดอบรม และสัมมนาต่างๆ และล่าสุด บริษัทได้รับนายภาวิทย์ กลิ่นประทุม เข้ามาทำงานบริษัท ในตำแหน่งที่ปรึกษาการลงทุน
ทั้งนี้ นายภาวิทย์นั้นเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน และมีนักลงทุนรุ่นใหม่ติดตามผ่านเว็บไซด์ โดยมีเข้าชมจำนวน 3 หมื่นราย และมียอดจำหน่ายเป็นแสนเล่ม โดยจะช่วยในเรื่องการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ให้แก่บริษัท ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีจำนวนบัญชีลูกค้า 4.7 หมื่นบัญชี มีการซื้อขายสม่ำเสมอ (แอ็กทีฟ) 30% ของบัญชีซื้อขายหุ้นทั้งหมด โดยบัญชีที่แอ็กทีฟแต่ละปีของบริษัทเพิ่มขึ้น 25% ต่อปี จากที่บริษัทมีจำนวนบัญชีใหม่ๆ มากขึ้น
สำหรับเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ปีนี้ บริษัทหวังว่าจะอยู่ที่ 5% จากปี 2554 ที่ 4.79% แต่บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับมาร์เกตแชร์มากนัก เพราะมันอาจจะไม่สะท้อนตัวบริษัท หลังเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชัน) แต่บริษัทจะเน้นขยายฐานลูกค้า และมองที่รายได้ของบริษัทมากกว่า และที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ส่วนอื่นๆ มาเพิ่ม เช่น รายได้จากการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) โดยถือว่า DW ของบริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาซื้อขายจำนวนมาก สัดส่วนถึง 80% ของยอดการซื้อขายตลาดรวม DW ต่อวันอยู่ที่ 200-300 ล้านบาท และบริษัทมีรายได้จากการบริหารเงินให้แก่ลูกค้าโดยใช้โปรแกรมซื้อขายหุ้นให้แก่นักลงทุนบุคคล ซึ่งปัจจุบัน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 300 ล้านบาท
“ที่ผ่านมา บริษัทมีบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นปีละ 30% ต่อเนื่อง ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่โตปีละ 12-13% ต่อปี ขณะนี้ บริษัทมีบัญชีลูกค้า 4.9 หมื่นบัญชี โดยบริษัทจะเน้นเรื่องการขยายฐานลูกค้าหน้าใหม่มากกว่าเน้นในเรื่องการเพิ่มมาร์เกตแชร์ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทมีเป้าที่จะเพิ่มมาร์เกตแชร์ที่ 5% แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถทำได้” นายบรรณรงค์กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีลูกค้าอนุพันธ์อยู่จำนวน 4 พันบัญชี แอ็กทีฟ สัดส่วน 25% คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้ 1,270 จุด ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจะต้องมีการเลือกลงทุนในหุ้นที่ดี
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานบริษัทปีนี้จะเน้นในเรื่องการขยายฐานนักลงทุนรายใหม่มากขึ้น ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2554 ที่มี 3.9 หมื่นบัญชี เนื่องจากบริษัทได้มีการให้ความรู้เรื่องการลงทุนให้แก่กลุ่มนักศึกษา และทายาทนักธุรกิจ โดยการจัดอบรม และสัมมนาต่างๆ และล่าสุด บริษัทได้รับนายภาวิทย์ กลิ่นประทุม เข้ามาทำงานบริษัท ในตำแหน่งที่ปรึกษาการลงทุน
ทั้งนี้ นายภาวิทย์นั้นเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน และมีนักลงทุนรุ่นใหม่ติดตามผ่านเว็บไซด์ โดยมีเข้าชมจำนวน 3 หมื่นราย และมียอดจำหน่ายเป็นแสนเล่ม โดยจะช่วยในเรื่องการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ให้แก่บริษัท ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีจำนวนบัญชีลูกค้า 4.7 หมื่นบัญชี มีการซื้อขายสม่ำเสมอ (แอ็กทีฟ) 30% ของบัญชีซื้อขายหุ้นทั้งหมด โดยบัญชีที่แอ็กทีฟแต่ละปีของบริษัทเพิ่มขึ้น 25% ต่อปี จากที่บริษัทมีจำนวนบัญชีใหม่ๆ มากขึ้น
สำหรับเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ปีนี้ บริษัทหวังว่าจะอยู่ที่ 5% จากปี 2554 ที่ 4.79% แต่บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับมาร์เกตแชร์มากนัก เพราะมันอาจจะไม่สะท้อนตัวบริษัท หลังเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชัน) แต่บริษัทจะเน้นขยายฐานลูกค้า และมองที่รายได้ของบริษัทมากกว่า และที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ส่วนอื่นๆ มาเพิ่ม เช่น รายได้จากการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) โดยถือว่า DW ของบริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาซื้อขายจำนวนมาก สัดส่วนถึง 80% ของยอดการซื้อขายตลาดรวม DW ต่อวันอยู่ที่ 200-300 ล้านบาท และบริษัทมีรายได้จากการบริหารเงินให้แก่ลูกค้าโดยใช้โปรแกรมซื้อขายหุ้นให้แก่นักลงทุนบุคคล ซึ่งปัจจุบัน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 300 ล้านบาท
“ที่ผ่านมา บริษัทมีบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นปีละ 30% ต่อเนื่อง ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่โตปีละ 12-13% ต่อปี ขณะนี้ บริษัทมีบัญชีลูกค้า 4.9 หมื่นบัญชี โดยบริษัทจะเน้นเรื่องการขยายฐานลูกค้าหน้าใหม่มากกว่าเน้นในเรื่องการเพิ่มมาร์เกตแชร์ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทมีเป้าที่จะเพิ่มมาร์เกตแชร์ที่ 5% แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถทำได้” นายบรรณรงค์กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีลูกค้าอนุพันธ์อยู่จำนวน 4 พันบัญชี แอ็กทีฟ สัดส่วน 25% คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้ 1,270 จุด ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจะต้องมีการเลือกลงทุนในหุ้นที่ดี