“ชัย” รับมี ส.ส.จ่อซบพรรคใหญ่ โยนมติ ภท.เลือก หน. ยัน “ห้อย” หันหลังทำทีมบุรีรัมย์

“พ่อเนวิน” โยนมติ ภท.เลือกใครนั่งหัวหน้า ยัน “ห้อย” เลิกแล้ว ไม่รู้ไปอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เผยเช็กชื่อ ส.ส.ตลอด รับมีบางคนจ่อย้ายซบพรรคใหญ่ แย้มสมัยหน้าเลิกเล่นการเมืองถ้าไม่ถูกบังคับ ชู “ศักดิ์สยาม” เหมาะสานการเมือง แนะสื่อจับตาหลายจังหวัดกินหัวคิวขุดลอกคูคลอง 35%

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่พรรคภูมิใจไทย นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมติพรรค ใครมีฐานะดูแลพรรคได้ก็เลือกคนนั้น เพราะต้องยอมรับว่าการลงพื้นที่ต้องใช้เงิน ซึ่งทุกคนก็มีความสามารถ เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส่วนนายเนวิน ชิดชอบ ก็บอกว่าเลิกแล้ว ส่วนจะอยู่หลังฉากหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะตอนนี้นายเนวินทำทีมฟุตบอล และขณะนี้พรรคได้มีการปรับโครงสร้างพรรคเป็นระยะๆ และตรวจสอบรายชื่อ ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมพรรค ทำให้รู้ว่าใครจะอยู่หรือไม่อยู่กับพรรคต่อ ซึ่งจะไปอยู่ที่ไหนก็ดีใจ แต่จะได้รับเลือกตั้งกลับมาหรือไม่ไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าในพรรคกำลังจะมีงูเห่าใช่หรือไม่ นายชัยกล่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่ เพียงแต่ไม่สะดวกใจจะอยู่พรรคเล็ก เพราะตนเคยอยู่พรรคใหญ่มาก่อน และพรรคใหญ่มีมุ้งเยอะ เพื่อต่อรอง ซึ่งทุกพรรคก็เป็นแบบนี้ เมื่อถามย้ำว่า เป็นตัวบุคคลหรือกลุ่มการเมืองที่อยู่ในพรรค นายชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องของบุคคล ที่กำลังตั้งกลุ่มไปอยู่กับพรรคใหญ่

ส่วนกรณีที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ออกมา จะทำให้พรรคแข็งแรงขึ้นหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า ไม่มีคนเหล่านี้ พรรคก็แข็งแรง เพราะวันนี้นายชวรัตน์ เรียนรู้ว่าการเมืองคืออะไร ซึ่งยากกว่าทำธุรกิจ

“สำหรับผมพอแล้ว เพราะวันนี้ผมอายุ 84 ปี อาจจะเลิกเล่นการเมืองสมัยหน้า แต่ถ้าถูกบังคับอาจลงให้อีก แต่ถ้าไม่บังคับก็จะเลิก ส่วนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีสิทธิ์ที่จะลงมาทำงานการเมืองได้ เพราะมีความรู้กว่ารัฐมนตรีหลายคน แต่นายเนวินไม่ขอพูดถึง เพราะนายเนวินเป็นนายกฯ ได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยปฏิญาณตนว่า 2 ปีจะทำทีมฟุตบอลให้ยิ่งใหญ่ได้” นายชัยกล่าว

นอกจากนี้ นายชัยยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทมาป้องกันปัญหาน้ำท่วมว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำดีแล้ว ก็ขอให้ทำดีต่อไป แต่อยากให้สื่อจับตาในเรื่องการขุดลอกคูคลอง พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกต เนื่องจากมีหลายจังหวัดเตรียมรับงานก่อสร้าง พร้อมผู้รับเหมา และข้าราชการชั่วๆ เรียกเก็บค่าหัวคิว 35 เปอร์เซ็นต์ เหมือนไอติมกินเหลือแต่ก้าน และจะไปแก้ปัญหาได้อย่างไร ซึ่งมีบางจังหวัดได้ขออนุมัติเงิน 2 แสนบาท ในการขุดลอกคูคลองเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยทำเพียงวันเดียวเสร็จ ทั้งนี้ ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวในช่วง 5-7 เดือนที่ผ่านมา ได้รับข้อมูลมาตลอด หากสื่ออยากได้รับข้อมูลดีๆ ก็ตามไปร่วมประชุมได้