00 ไม่น่าเชื่อว่าบางคนมีข่าวคราวที่สังคมภายนอกได้รับรู้ออกมาล้วนมีแต่เรื่องอื้อฉาว เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว การละเมิดกฎหมาย แต่อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาสังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์เข้มข้น ทำให้คนพวกนี้ยังสำคัญตัวเองผิด หลังจากในยุคปัจจุบันทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว การรับรู้ข่าวสารเริ่มมีมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่รับรองว่าเปลี่ยนไปมากแล้ว
00 หากกล่าวถึงคนประเภทนี้ ก็ต้องมี เสนาะ เทียนทอง รวมอยู่ด้วย ไม่เชื่อก็ลองย้อนดูประวัติทางการเมืองตั้งแต่เริ่มไต่เต้ามาจากการทำธุรกิจชายแดน จนเห็นช่องทางเข้ามาสู่การเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ คนๆนี้มีสิ่งใดที่น่าจดจำในทางบวกบ้าง นอกเหนือจากการเปลี่ยนชื่อ ยาม้ามาเป็น “ยาบ้า” ในยุคที่เป็น มท.1 ที่ผ่านมาล้วนแล้วจดจำแต่เรื่อง “เสนาะ 40 ตัน” และที่ต้องจดจำไม่มีวันลืมก็คือ กรณีแปลงที่ดินวัดมาเป็น “สนามกอล์ฟอันไพน์” แล้วขายให้กับ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ
00 ขณะเดียวกันเรื่องความตลบตะแลงวันนี้พูดอย่าง วันรุ่งขึ้นพูดอีกอย่าง เพราะที่ผ่านมาเมื่อไม่ได้ผลประโยชน์ดังใจก็แตกแยกด่าทอทักษิณ แฉกันยับเยินแบบ “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” คิดว่าชาตินี้ทั้งคู่คงไม่ทางที่จะมาญาติดีกันได้ แต่ตอนนี้เป็นไงหันกลับมาจูบปากกันหน้าตาเฉย เพราะอะไรก็เพราะผลประโยชน์ที่มันลงตัวนั่นแหละ
00 ที่ผ่านมาแทนที่จะเก็บความคิดกระจอกๆ ไม่เข้าท่าเหล่านั้นแล้วนอนรอความตายอย่างเงียบๆไม่เอา แต่นี่ดันสะเออะโผล่หน้าออกมาเสนอให้ใช้วิธี “กักบริเวณ” ทักษิณ ให้อยู่แต่ในบ้านเหมือนกับ “อองซานชูจี” ทั้งที่มันคนละเรื่องคนละราว เพราะคนหลังนี่มันขี้โกง ทรราชย์ มีความผิดอาญา ไม่ใช่นักโทษการเมืองอย่างที่พยายามสร้างภาพบิดเบือนให้เป็นเกียรติ ดังนั้นทางที่ดีควรหุบปากเน่าๆเอาไว้จะเป็นการดีที่สุด
00 เป็นที่แน่นอนว่าการปรับครม.ต้องเกิดขึ้นแน่ ครั้งแรกก็น่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี่แหละ เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ลักษณะตอบแทนเป็นการ “ตบรางวัล” ให้กับพวก “รับใช้” ทั้งหลายเป็นการหมุนเวียนกันไป หลังจากนั้นก็น่าจะเป็นอีกครั้งหลังเดือน พค.หลังจากพวกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษแบนออกมา ซึ่งที่ต้องเข้ามามีทั้งนอกพรรค จากพรรคร่วม และจากในพรรคเพื่อไทยเอง แต่ในความจริงก็คงมีแรงกระเพื่อมภายในเล็กน้อย เพราะพวกแถวสองแถวสามในปัจจุบันจะตีกันอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดีในที่สุดแล้วก็จะเรียบร้อย เพราะถึงอย่างไร ก็ต้องหลีกทางให้ระดับ “ขาใหญ่” อยู่แล้ว
00 ที่น่าจับตาก็คือความเคลื่อนไหวในพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะการแบะท่าแยกตัวเป็น “งูเห่า” เข้ามาเสียบรัฐบาลจาก “กลุ่มมัชฌิมา” ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน และเชื่อว่างานนี้มีความเป็นไปได้สูงเสียด้วย หนึ่งเป็นการเพิ่มแนวร่วมเพิ่มเสียงสนับสนุนในการแก้ไข รธน. เพิ่มหลักประกันความมั่นคง สองเป็นการโดดเดี่ยวตัดกำลัง เนวิน ชิดชอบ ให้อ่อนแรงลงไปอีก !!
00 หากกล่าวถึงคนประเภทนี้ ก็ต้องมี เสนาะ เทียนทอง รวมอยู่ด้วย ไม่เชื่อก็ลองย้อนดูประวัติทางการเมืองตั้งแต่เริ่มไต่เต้ามาจากการทำธุรกิจชายแดน จนเห็นช่องทางเข้ามาสู่การเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ คนๆนี้มีสิ่งใดที่น่าจดจำในทางบวกบ้าง นอกเหนือจากการเปลี่ยนชื่อ ยาม้ามาเป็น “ยาบ้า” ในยุคที่เป็น มท.1 ที่ผ่านมาล้วนแล้วจดจำแต่เรื่อง “เสนาะ 40 ตัน” และที่ต้องจดจำไม่มีวันลืมก็คือ กรณีแปลงที่ดินวัดมาเป็น “สนามกอล์ฟอันไพน์” แล้วขายให้กับ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ
00 ขณะเดียวกันเรื่องความตลบตะแลงวันนี้พูดอย่าง วันรุ่งขึ้นพูดอีกอย่าง เพราะที่ผ่านมาเมื่อไม่ได้ผลประโยชน์ดังใจก็แตกแยกด่าทอทักษิณ แฉกันยับเยินแบบ “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” คิดว่าชาตินี้ทั้งคู่คงไม่ทางที่จะมาญาติดีกันได้ แต่ตอนนี้เป็นไงหันกลับมาจูบปากกันหน้าตาเฉย เพราะอะไรก็เพราะผลประโยชน์ที่มันลงตัวนั่นแหละ
00 ที่ผ่านมาแทนที่จะเก็บความคิดกระจอกๆ ไม่เข้าท่าเหล่านั้นแล้วนอนรอความตายอย่างเงียบๆไม่เอา แต่นี่ดันสะเออะโผล่หน้าออกมาเสนอให้ใช้วิธี “กักบริเวณ” ทักษิณ ให้อยู่แต่ในบ้านเหมือนกับ “อองซานชูจี” ทั้งที่มันคนละเรื่องคนละราว เพราะคนหลังนี่มันขี้โกง ทรราชย์ มีความผิดอาญา ไม่ใช่นักโทษการเมืองอย่างที่พยายามสร้างภาพบิดเบือนให้เป็นเกียรติ ดังนั้นทางที่ดีควรหุบปากเน่าๆเอาไว้จะเป็นการดีที่สุด
00 เป็นที่แน่นอนว่าการปรับครม.ต้องเกิดขึ้นแน่ ครั้งแรกก็น่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี่แหละ เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ลักษณะตอบแทนเป็นการ “ตบรางวัล” ให้กับพวก “รับใช้” ทั้งหลายเป็นการหมุนเวียนกันไป หลังจากนั้นก็น่าจะเป็นอีกครั้งหลังเดือน พค.หลังจากพวกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษแบนออกมา ซึ่งที่ต้องเข้ามามีทั้งนอกพรรค จากพรรคร่วม และจากในพรรคเพื่อไทยเอง แต่ในความจริงก็คงมีแรงกระเพื่อมภายในเล็กน้อย เพราะพวกแถวสองแถวสามในปัจจุบันจะตีกันอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดีในที่สุดแล้วก็จะเรียบร้อย เพราะถึงอย่างไร ก็ต้องหลีกทางให้ระดับ “ขาใหญ่” อยู่แล้ว
00 ที่น่าจับตาก็คือความเคลื่อนไหวในพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะการแบะท่าแยกตัวเป็น “งูเห่า” เข้ามาเสียบรัฐบาลจาก “กลุ่มมัชฌิมา” ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน และเชื่อว่างานนี้มีความเป็นไปได้สูงเสียด้วย หนึ่งเป็นการเพิ่มแนวร่วมเพิ่มเสียงสนับสนุนในการแก้ไข รธน. เพิ่มหลักประกันความมั่นคง สองเป็นการโดดเดี่ยวตัดกำลัง เนวิน ชิดชอบ ให้อ่อนแรงลงไปอีก !!