“แม้ว” ยิ่งกร่าง ยิ่งเจอรวมการเฉพาะกิจต้านรุนแรงทวีคูณ!!

ผ่าประเด็นร้อน

ต้องยอมรับว่าถ้าใครเป็น ทักษิณ ชินวัตร ในยามนี้คงต้องนั่งกระดิกขาเบาใจไปได้เปลาะหนึ่ง หลังจากได้เห็นคะแนนเสียงที่ชนะกันขาดลอยระหว่างการลงคะแนนของสมาชิกรัฐสภารับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ในวาระแรก เพื่อเป็นประตูไปสู่การยกร่างฉบับใหม่ทั้งฉบับ

หากพิจารณาให้เห็นภาพก็คือการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญด้วยเสียงข้างมากในสภา เป็นวิธีการใหม่ที่กระทำภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย ชี้นำโดยทุนสามานย์ที่เป็นเจ้าของพรรคการเมือง

เมื่อกลับมาพิจารณาถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้รื้อต่อไปดังกล่าว และเมื่อนับดูตามจำนวนตัวเลขคะแนนเสียงที่สนับสนุนทั้งสภาผู้แทนและวุฒิสภา ก็ต้องบอกว่า “ชนะขาด” ทำให้อย่าได้แปลกใจที่เมื่อผลขั้นต้นออกมาแบบนี้แล้วจะไม่ทำให้บรรดาพวกที่ผลักดันเดินหน้าเกิดอาการเหิมเกริม “กร่าง”คับบ้านคับเมืองแบบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ได้อย่างไร

มันช่วยไม่ได้ที่ต้องตั้งวง “ดื่มฉลองชัย” กันตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่สนใจว่านั่นเป็นสภา เป็นเขตพระราชฐาน คิดราวกับว่า “กูใหญ่” จะทำมากกว่านี้ก็ได้ ใครจะทำไม

อารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายที่ต้องการฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะสิ่งที่คนพวกนี้ยกขึ้นมาอ้างอยู่ตลอดเวลาก็คือเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการ โดยที่ไม่ได้พูดถึงเนื้อหาสาระว่าให้สิทธิภาคประชาชนมากที่สุดหรือไม่ ขณะเดียวกันยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ต่อยอดมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่คนพวกนี้ยกย่องว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุดนั่นแหละ เพียงแต่ว่า ฉบับปัจจุบันมีการเพิ่มหมวดการตรวจสอบนักการเมืองที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม ทำให้ “นักการเมืองชั่ว” กระดิกตัวลำบาก จนต้องหาทางฉีกทิ้ง

หากว่าไปแล้วคนที่ไม่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ไม่ใช่มีเพียง ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวเท่านั้น ยังมีนักการเมืองประเภทเขี้ยวลากดินที่มีอยู่เกลื่อนเมือง คนพวกนี้ก็ไม่อยากให้มี ก็เพราะองค์กรอิสระที่มีการตรวจสอบเข้มงวดนี่แหละ ซึ่งหากพิจารณากันในข้อเท็จจริงตามเหตุตามผลแล้ว ถ้าไม่ชอบใจรัฐธรรมนูญ เห็นว่าทำให้ตัวเองมีปัญหาก็ไม่ต้องเสนอหน้าเข้ามา เพราะเชื่อว่าบ้านเมืองคงไม่ล่มจมถ้าขาดนักการเมืองพวกนี้

ถามว่าจะล่มจมหรือไม่ถ้าขาดคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ขาด บรรหาร ศิลปอาชา ขาด เฉลิม อยู่บำรุง ขาดสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นต้น ตรงกันข้าม บ้านเมืองน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ถ้าไม่มีคนพวกนี้มาข้องแวะกับการเมือง ที่ผ่านมาเป็นเพราะคนพวกนี้เสพติดอยู่กับอำนาจ และนำไปต่อยอดอย่างอื่นจนพวกนี้เกิดอาการหลง คิดเลยเถิดไปว่าตัวกูจะต้องเป็นเจ้าของ

การแก้ไขรัฐธรรมนูญคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน สำหรับคนที่ติดตามการเมืองมาอย่างใกล้ชิดก็ต้องรับรู้ว่า เป็นความพยายามของทักษิณ เพราะอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง และเป้าหมายสำคัญที่ต้องการก็คือ ลบล้างความผิดให้กับตัวเอง ให้กลับมามีอำนาจ และได้ทรัพย์สินที่ถูกยึดไปกลับมา หลักๆมีอยู่แค่นี้จริงๆ ขณะเดียวกันเมื่อมีการฉีกทิ้งฉบับเก่าแล้วก็ต้องร่างใหม่เพื่อเพิ่มอำนาจแบบรวมศูนย์ให้กับฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งคราวนี้เป็นไปได้อาจถึงขั้นให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพที่เป็นต่อทุกทางดังกล่าวข้างต้นทำให้เกิดอาการเหิมเกริม กร่างกันเกินพิกัด และด้วยอาการแบบนี้แหละมันจะทำให้เกิดอาการหมั่นใส้จากชาวบ้านรอบข้างได้ง่าย ขณะเดียวกันนับวัน “ความจริง” จะเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นมากขึ้นทุกวัน ว่าแท้จริงแล้วทุกอย่างที่กำลังหน้ามืดดิ้นรนอยู่ในเวลานี้ทำเพื่อประโยชน์นักการเมือง และ ทักษิณ เท่านั้น ชาวบ้านไม่ได้อะไรเลย และด้วยสาเหตุแบบนี้แหละที่จะทำให้เกิดแรงดึงดูดเกิดแรงต่อต้านประเภทที่เรียกว่า “รวมการเฉพาะกิจ” โดยเวลานี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ

เชื่อว่านับวันจะเข้มข้นจนเกิดการพลิกผันได้ทุกเวลาได้เหมือนกัน!!