xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ หนุนธุรกิจลงทุนนอกชี้พม่า-เวียดนาม-อินโดฯ น่าสนสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กสิกรฯ เตือนผู้ประกอบการลงทุนนอก รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน แนะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนปิดช่องขาดทุนค่าเงิน ชี้พม่า-เวียดนาม-อินโดฯ มีศักยภาพน่าสนสุด

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK)กล่าวว่า ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารมองว่ายังคงมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องคอยจับตามองอย่างใกล้ชิด เช่น เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง และอาจมีการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการสนับสนุนประเทศในโซนยุโรป ซึ่งทำให้ยูโรโซนอาจสั่นคลอนได้อีกครั้ง ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นไปอย่างเชื่องช้า และมีแนวโน้มเปราะบางมากขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าส่งออกควรปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อหลีกเลี่ยงส่วนต่างของกำไรที่อาจจะลดลง

นอกจากนี้ การรวมตัวของประชาคมอาเซียน (AEC) ที่จะมีการปรับลดอัตราภาษีในปีหน้า ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวรับมือการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นอีกขั้นหนึ่งโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตร และสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของภาครัฐ และเอกชนภายในประเทศจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยที่ช่วยลดผลกระทบในเชิงลบจากปัจจัยภายนอกได้

อย่างไรก็ตาม สายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัทของธนาคารได้มีแผนรองรับและเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์อยู่แล้ว จึงมั่นใจว่า จะสามารถทำยอดสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของสินเชื่อคงค้างสิ้นปีเติบโตที่ประมาณ 8% หรือใกล้คียงกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ และตั้งเป้าเติบโตค่าธรรมเนียมประมาณ 10-12% โดยธนาคารจะมุ่งเน้นกลยุทธ์การบุกตลาดต่างจังหวัด (Urbanization) ที่เป็นหัวเมืองหลัก เช่น นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดสำคัญในการเชื่อมต่อการค้าการลงทุนของการค้าชายแดน และประชาคมอาเซียน

ส่วนการลงทุนในต่างประเทศของผู้ประกอบการรายใหญ่นั้น มีโครงการที่ต้องการไปลงทุน และไปลงทุนแล้วรวมกว่า 400 โครงการ ประเมินเป็นมูลค่ารวมได้กว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่ไปลงทุนในประเทศกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) และอินโดนีเซีย อุตสาหกรรมหลักที่ไปลงทุน ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป วัสดุก่อสร้าง ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี โดยจากการศึกษาของทางธนาคารพบว่า ประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตด้วยปัจจัยแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ได้แก่ ประเทศพม่า เวียดนาม และอินโดนีเซีย

“การลงทุนในต่างประเทศยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการทำการค้ากับประเทศดังกล่าวระยะหนึ่งก่อนเพื่อทำความเข้าใจตลาด ก่อนที่จะลงทุนกับประเทศนั้นๆ ซึ่งธนาคารมีความพร้อมในการให้บริการและสนับสนุนการค้าการลงทุน และการจับคู่ธุรกิจแก่ผู้ประกอบการไทยเพื่อให้เติบโตในเวทีโลกอย่างยั่งยืน”
กำลังโหลดความคิดเห็น