ไทยพาณิชย์ปรับกระบวนท่ารุกรายย่อย หันเน้นสร้างความสัมพันธ์-ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์มากกว่าปริมาณ ส่วนเงินกู้ซอฟต์โลน 3.2 หมื่นล้าน ยอดขอล้น เตรียมยื่นขอแบงก์ชาติเพิ่ม
นายญนน์ โภคทรัพย์ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)เปิดเผยว่า ทิศทางสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ เช่น บ้านหลังแรก รถคันแรก รวมถึงการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ที่จะถึงนี้
ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยเงินกู้ก็จะเป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากก็ยังคงมีการแข่งขันกันสูง ซึ่้งในเร็วๆ นี้ ธนาคารก็จะเปิดผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ เพื่อระดมเงินฝากเพิ่ม หลังจากในครึ่งปีแรกมียอดเงินฝากเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารจะมีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มลูกค้าบุคคล โดยแบ่งกลุ่มของกลุ่มลูกค้าบุคคลลงไปอีก เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น พร้อมกันนั้น จะเน้นด้านความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้ามากกว่าปริมาณการขายผลิตภัณฑ์เท่านั้น จากกลยุทธ์ใน 4 ด้านด้วยกัน คือ ความง่ายต่อการใช้บริการต่างๆ ของธนาคาร ความสะดวกมีช่องทางหลากหลายในการใช้บริการ ความครอบคลุมในสินค้า-บริการทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์หลัก และบริการเสริมที่เกี่ยวเนื่อง และในด้านของความเป็นผู้บริการที่รู้จริง และรู้ใจลูกค้า
“ผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกค้าบุคคลในช่วงครึ่งปีแรก ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ธนาคารยังครองความเป็นอันดับ 1 ในตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต รวมถึงสินเชื่อรถยนต์ เงินฝากและการลงทุน ดังนั้น ในช่วงต่อไปจะมีการสำรวจความต้องการของลูกค้าให้ลึกลงไปอีก โดยแบ่งกลุ่มย่อยลงไปอีก เพื่อให้ความสัมพันธ์เป็นไปอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การใช้ผลิตภัณฑ์เพียงครั้งเดียวแล้วก็เลิกกันไป”
สำหรับผลประกอบการของกลุ่มลูกค้าบุคคลในช่วงครึ่งปีแรก มีสินเชื่อคงค้างรวม 563,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเติบโต 28% โดยเป็นการเติบโตในทุกกลุ่ม ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ เงินฝาก บัตรเครดิต และการลงทุน และคาดว่าทั้งปีสินเชื่อจะมียอดคงค้างกว่า 600,000 ล้านบาท หรือขยายตัวเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25%
เผยยอดกู้ซอฟต์โลนล้น-ร้องธปท.ขอเพิ่ม
ด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปลายปีก่อนที่ธนาคารได้รับการจัดสรรจากธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ในวงเงิน 32,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ธนาคารได้อนุมัติซอฟต์โลนให้แก่ประชาชนเต็มวงเงินแล้ว และมีการเบิกใช้เงินกู้ไปแล้วประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยเป็นการปล่อยซอฟต์โลนให้แก่รายย่อยที่ประสบภัยน้ำท่วม 80%
อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินเชื่อซอฟต์โลนของประชาชนยังมีต่อเนื่อง โดยมียอดขอสินเชื่อซอฟต์โลนคงค้างหลายพันล้านบาท ดังนั้น จึงได้มีการติดต่อไปยังธปท. เพื่อขออนุมัติซอฟต์โลนเพิ่มเติม หรือขอแนะนำว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรกับยอดขอสินเชื่อที่ค้างอยู่
“ธนาคารยืนยันว่า ได้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้แก่ประชาชนที่มายื่นขอสินเชื่อตามลำดับก่อนหลัง หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2777-7777 *4”
