โพสโค-ไทยน๊อคซ์ ลงนามแต่งตั้ง 5 บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายสเตนเลสรีดเย็นในประเทศ รับมือการเข้าสู่ AEC ปี2558 หวังสร้างเครือข่ายพันธมิตรการตลาดสเตนเลสรีดเย็นที่มีคุณภาพตามมาตรฐานระดับโลก เร่งเพิ่มขีดแข่งขันสู้ศึกสเตนเลสไร้มาตรฐานที่อาจเข้ามาทำตลาดมากขึ้นในอนาคต
ดร.โฮ ซอก ซง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โพสโค-ไทยน๊อคซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ INOX เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสเตนเลสรีดเย็นภายในประเทศกับพันธมิตรหลัก 5 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท จุฑาวรรณ จำกัด บริษัท อัศว เม็ททอล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เอส.ที. เค.สตีล จำกัด และ เอ อี ซี กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วย บริษัทในเครือซึ่งครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานสเตนเลส คือ บริษัทศรีราชพฤกษ์ จำกัด บริษัทเอี่ยมโลหะ จำกัด บริษัทชลบุรีศรีเจริญโลหะ จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด โอ้ว เฮียบ เซ่ง เชียง โงว กิม เพื่อรองรับกับตลาดที่จะเปิดกว้างจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปี 2558
“ตลาดอาเซียนที่กำลังเปิดกว้าง ส่วนหนึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจะส่งผลต่อการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าสเตนเลส ที่ปัจจุบัน มีสัดส่วนการใช้งานในทุกภาคส่วน ทั้งในระดับครัวเรือน และในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยต้องประสบกับปัญหากับสินค้าสเตนเลสคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และมีราคาถูกเข้ามาจำหน่ายจำนวนมาก โดยในครัวเรือนไทยพบว่าสินค้าสเตนเลสที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และมีราคาต่ำกว่าเริ่มเข้ามาระบาดมากขึ้น และการร่วมมือกันครั้งนี้จะได้ประโยชน์ทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะในแง่ของผู้บริโภคที่ควรจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดี ในราคาไม่แพง และเราจะส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการใชเงานสเตนเลสที่ถูกต้องไปยังภาครัฐ เอกชน และผู้บริโภคให้กว้างขวางต่อไป” ดร.โฮ ซอก ซง กล่าว
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าว ด้านหนึ่งจะช่วยให้คู่ค้าและลูกค้าต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งจัดเป็นกลุ่มตลาดใหม่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศ ให้เพิ่มขีดความสามารถทั้งในด้านคุณภาพสินค้าระดับโลก ราคาที่แข่งขันได้ และยังสามารถลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งทำให้บริษัทคู่ค้าสามารถตอบสนองความต้องการสเตนเลสเกรดต่างๆ มากขึ้น สนับสนุนไปในอุตสาหกรรมที่มีฐานการผลิตของประเทศไทยเพื่อการส่งออก และตัวแทนจำหน่ายก็ได้รับประโยชน์ในเรื่องของคุณภาพของสเตนเลสที่เชื่อถือได้ในระดับนานาชาติ และการลดต้นทุนการผลิตแถม
พร้อมกันนี้ ยังจะได้รับบริการเสริมด้านเทคนิคและวิศวโลหการ ซึ่งเป็นการควบคุมคุณภาพต่อเนื่องขั้นปลายทางให้แก่ลูกค้า นอกเหนือไปจากการรับรองคุณภาพของสินค้าที่มาจากการผลิต และตัวผลิตภัณฑ์จากสถาบันมาตรฐานทั้งในระดับนานาชาติ และในประเทศ (ISO 9001, 14001, OHASA 18001, TIS มอก. 1378-2539, REACH, RoHS) ซึ่งจุดแข็ง และความแตกต่างทางการตลาดตรงนี้ที่สินค้านำเข้าจะไม่มี
ดร.โฮ ซอก ซง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โพสโค-ไทยน๊อคซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ INOX เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสเตนเลสรีดเย็นภายในประเทศกับพันธมิตรหลัก 5 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท จุฑาวรรณ จำกัด บริษัท อัศว เม็ททอล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เอส.ที. เค.สตีล จำกัด และ เอ อี ซี กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วย บริษัทในเครือซึ่งครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานสเตนเลส คือ บริษัทศรีราชพฤกษ์ จำกัด บริษัทเอี่ยมโลหะ จำกัด บริษัทชลบุรีศรีเจริญโลหะ จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด โอ้ว เฮียบ เซ่ง เชียง โงว กิม เพื่อรองรับกับตลาดที่จะเปิดกว้างจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปี 2558
“ตลาดอาเซียนที่กำลังเปิดกว้าง ส่วนหนึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจะส่งผลต่อการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าสเตนเลส ที่ปัจจุบัน มีสัดส่วนการใช้งานในทุกภาคส่วน ทั้งในระดับครัวเรือน และในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยต้องประสบกับปัญหากับสินค้าสเตนเลสคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และมีราคาถูกเข้ามาจำหน่ายจำนวนมาก โดยในครัวเรือนไทยพบว่าสินค้าสเตนเลสที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และมีราคาต่ำกว่าเริ่มเข้ามาระบาดมากขึ้น และการร่วมมือกันครั้งนี้จะได้ประโยชน์ทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะในแง่ของผู้บริโภคที่ควรจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดี ในราคาไม่แพง และเราจะส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการใชเงานสเตนเลสที่ถูกต้องไปยังภาครัฐ เอกชน และผู้บริโภคให้กว้างขวางต่อไป” ดร.โฮ ซอก ซง กล่าว
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าว ด้านหนึ่งจะช่วยให้คู่ค้าและลูกค้าต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งจัดเป็นกลุ่มตลาดใหม่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศ ให้เพิ่มขีดความสามารถทั้งในด้านคุณภาพสินค้าระดับโลก ราคาที่แข่งขันได้ และยังสามารถลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งทำให้บริษัทคู่ค้าสามารถตอบสนองความต้องการสเตนเลสเกรดต่างๆ มากขึ้น สนับสนุนไปในอุตสาหกรรมที่มีฐานการผลิตของประเทศไทยเพื่อการส่งออก และตัวแทนจำหน่ายก็ได้รับประโยชน์ในเรื่องของคุณภาพของสเตนเลสที่เชื่อถือได้ในระดับนานาชาติ และการลดต้นทุนการผลิตแถม
พร้อมกันนี้ ยังจะได้รับบริการเสริมด้านเทคนิคและวิศวโลหการ ซึ่งเป็นการควบคุมคุณภาพต่อเนื่องขั้นปลายทางให้แก่ลูกค้า นอกเหนือไปจากการรับรองคุณภาพของสินค้าที่มาจากการผลิต และตัวผลิตภัณฑ์จากสถาบันมาตรฐานทั้งในระดับนานาชาติ และในประเทศ (ISO 9001, 14001, OHASA 18001, TIS มอก. 1378-2539, REACH, RoHS) ซึ่งจุดแข็ง และความแตกต่างทางการตลาดตรงนี้ที่สินค้านำเข้าจะไม่มี
