บอร์ดปูนใหญ่ อนุมัติงบ 1.32 พัน ลบ.ขยายกำลังการผลิตธุรกิจปูน-กระดาษ โดยจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตันต่อปี ที่โรงงานแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาส 4/56
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติเงินลงทุนจำนวน 1,320 ล้านบาท สำหรับโครงการลงทุนของ SCC ในสินค้า และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) ของธุรกิจซีเมนต์ในโครงการลงทุนขยายกำลังการผลิตปูนสำเร็จรูปของบริษัท สยามมอร์ตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด โดยจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตันต่อปี ที่โรงงานแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาส 4/56
หลังจากโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นลง จะทำให้กำลังการผลิตของสยามมอร์ตาร์เพิ่มขึ้นถึง 3.1 ล้านตันต่อปี และจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่การเป็นผู้นำของบริษัทในตลาดปูนสำเร็จรูป โดยปูนสำเร็จรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับงานก่ออิฐ และงานฉาบผนัง มีคุณสมบัติลดการแตกร้าว สะดวกต่อการใช้งาน และใช้ในงานก่อ-ฉาบอิฐมวลเบา ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ส่วนธุรกิจกระดาษ SCC จะลงทุนในโครงการลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษของโรงงานในจังหวัดขอนแก่น เพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับการผลิตเยื่อ Dissolving Grade กำลังการผลิต 96,000 ตันต่อปี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/56 ซึ่งจะทำให้ บมจ.เอสซีจี เปเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC เป็นผู้ผลิตเยื่อ Dissolving Grade รายแรกของประเทศไทย
ทั้งนั้ เยื่อ Dissolving Grade ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เนื่องจากมี Cellulose Content สูง จึงสามารถใช้ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าเยื่อสำหรับกระดาษทั่วไป นอกจากนั้น เยื่อ Dissolving Grade ยังมีการเติบโตได้ต่อไปในอนาคต เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของความต้องการสูง เช่น เรยอน (อุตสาหกรรมสิ่งทอ) และเมลามีน (อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค)
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติเงินลงทุนจำนวน 1,320 ล้านบาท สำหรับโครงการลงทุนของ SCC ในสินค้า และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) ของธุรกิจซีเมนต์ในโครงการลงทุนขยายกำลังการผลิตปูนสำเร็จรูปของบริษัท สยามมอร์ตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด โดยจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตันต่อปี ที่โรงงานแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาส 4/56
หลังจากโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นลง จะทำให้กำลังการผลิตของสยามมอร์ตาร์เพิ่มขึ้นถึง 3.1 ล้านตันต่อปี และจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่การเป็นผู้นำของบริษัทในตลาดปูนสำเร็จรูป โดยปูนสำเร็จรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับงานก่ออิฐ และงานฉาบผนัง มีคุณสมบัติลดการแตกร้าว สะดวกต่อการใช้งาน และใช้ในงานก่อ-ฉาบอิฐมวลเบา ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ส่วนธุรกิจกระดาษ SCC จะลงทุนในโครงการลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษของโรงงานในจังหวัดขอนแก่น เพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับการผลิตเยื่อ Dissolving Grade กำลังการผลิต 96,000 ตันต่อปี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/56 ซึ่งจะทำให้ บมจ.เอสซีจี เปเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC เป็นผู้ผลิตเยื่อ Dissolving Grade รายแรกของประเทศไทย
ทั้งนั้ เยื่อ Dissolving Grade ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เนื่องจากมี Cellulose Content สูง จึงสามารถใช้ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าเยื่อสำหรับกระดาษทั่วไป นอกจากนั้น เยื่อ Dissolving Grade ยังมีการเติบโตได้ต่อไปในอนาคต เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของความต้องการสูง เช่น เรยอน (อุตสาหกรรมสิ่งทอ) และเมลามีน (อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค)