ตลท. เฝ้าระวังเงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดหุ้น “จรัมพร” เผยตอนนี้เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทย 400-500 ล้านบาท ไม่รุนแรงเหมือนเดือน พ.ค.54 ที่มีเงินไหลเข้าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท ยันไม่จำเป็นต้องตั้ง “กองทุนพยุงหุ้น” เพราะดัชนีพุ่งสูงสุดรอบ 16 ปี แต่ทุกคนต้องหาทางป้องกันความเสี่ยงเอง “ปูนใหญ่” ปรับแผนส่งออก ลดพึ่งตลาดยุโรปจาก 30% เหลือแค่ 1% แนะผู้บริหารทุกแห่ง ควรมองในแง่ลบไว้ก่อน
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลต่อตลาดหุ้นไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของยูโรโซน โดยยืนยันว่า ภาคตลาดทุนได้มีการเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด สำหรับปัญหาเงินทุนไหลเข้าออก ยังต้องติดตามดูเป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ต้องดูว่าเมื่อเศรษฐกิจยุโรปมีปัญหา เงินทุนเคลื่อนย้ายจะไหลจากยุโรปอย่างรุนแรงหรือไม่
สำหรับเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยขณะนี้ มีประมาณ 400-500 ล้านบาท ไม่มาก และรุนแรงเหมือนช่วงเดือนพฤษภาคม 2554 ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้า 60,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ทุกคนต้องหาทางป้องกันความเสี่ยง แม้ขณะนี้ ยังไม่จำเป็นต้องตั้งกองทุนพยุงหุ้นขึ้น เพราะดัชนีหุ้นไทยได้ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 16 ปี ยังอยู่ในระดับที่สามารถดูแลได้
ด้านนายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอสซีจีได้ปรับแผนการส่งออกสินค้าจากเดิมที่พึ่งพาตลาดยุโรปร้อยละ 30 ปัจจุบันเหลือร้อยละ 1 เท่านั้น ดังนั้น ภาคเอกชนอื่นต้องบริหารความเสี่ยง เพราะปัญหายุโรปมองว่า จะเลวร้ายมากขึ้น และซึมลึกเป็นเวลานาน แต่สมาชิกของสหภาพยุโรปต่างพยายามหามาตรการออกมาช่วยเหลือสถาบันการเงิน โดยอัดฉีดเงินช่วยเหลือธนาคารไปแล้ว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ผู้บริหารระดับสูงของเอกชนทุกแห่งต้องมองผลกระทบในแง่ร้ายไว้ก่อน เพื่อหามาตรการรองรับได้ทัน
นอกจากนี้ ผู้บริหารควรให้ความสำคัญ และต้องดำเนินการเกี่ยวกับการสร้างองค์กรให้มีความยั่งยืน การดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะหลักดังกล่าวจะช่วยให้ภาคธุรกิจมีความเข้มแข็ง เป็นภูมิต้านทานรองรับปัญหาเศรษฐกิจโลก