xs
xsm
sm
md
lg

ฟิทช์ฯ คงเครดิต SCCCที่ “A(tha)”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟิทช์ เรทติ้งส์ฯ คงอันดับเรตติ้ง “ปูนซีเมนต์นครหลวง” ที่ระดับ A(tha) และระยะสั้นที่ F1(tha) แนวโน้มมีเสถียรภาพ อีกทั้งคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิที่ระดับ A(tha) สะท้อนความเป็นผู้นำการตลาดที่ผลิต และยอดขายปูนเป็นอันดับ 2

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ระยะยาวที่ระดับ ‘A(tha)’ และระยะสั้นที่ระดับ ‘F1(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิของ SCCC ที่ระดับ ‘A(tha)’

โดยอันดับเครดิตของ SCCC สะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำทางการตลาดของบริษัทฯ ที่มีกำลังผลิต และยอดขายปูนซีเมนต์สูงเป็นอันดับที่ 2 ในประเทศไทย และมีตราสินค้าที่แข็งแกร่งทั้งในผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างมั่นคง ที่ระดับร้อยละ 27 ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการสนับสนุนทางด้านการปฏิบัติการ และเครือข่ายทางการตลาดที่แข็งแกร่งในตลาดโลกจาก Holcim Ltd. (Holcim; ‘BBB’/Stable) หนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทฯ ซึ่งช่วยส่งเสริมการส่งออกของบริษัทฯ อีกด้วย และ SCCC สามารถรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทฯ ที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (adjusted net debt to EBITDAR) อยู่ในระดับต่ำกว่าหนึ่งเท่าในช่วงปี 2547 ถึงปี 2554 กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งน่าจะยังคงช่วยให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิดังกล่าว อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2 เท่าได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แม้ว่าบริษัทฯ น่าจะมีค่าใช้จ่ายลงทุนเพิ่มขึ้น และมีการจ่ายเงินปันผลอยู่ในระดับที่สูงในช่วงระยะเวลาดังกล่าวก็ตาม

ขณะที่อัตราการทำกำไรของบริษัทฯ มีความอ่อนไหวต่อระดับราคาพลังงานเป็นอย่างมากเนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิง และค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 50 ของต้นทุน และค่าใช้จ่ายทั้งหมด นอกจากนี้ ภาวะกำลังผลิตส่วนเกินในประเทศยังจำกัดการผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นไปยังผู้บริโภคอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มาตรการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการใช้เชื้อเพลิงทดแทนเพิ่มขึ้น การประหยัดต้นทุนไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่นำพลังงานความร้อนส่วนเกินจากการผลิตปูนซีเมนต์มาใช้ และการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร น่าจะมีส่วนช่วยบรรเทาแรงกดดันจากต้นทุนทางด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นได้บ้าง
อันดับเครดิตของ SCCC ถูกลดทอนลงจากการที่บริษัทฯ มีรายได้ส่วนใหญ่จากการขายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ ถึงแม้ว่ารายได้จากการส่งออกสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้น แต่กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย จากการขายสินค้าภายในประเทศยังคงคิดเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าร้อยละ 80 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายทั้งหมดของบริษัทฯ ในปี 2554 นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดภายในประเทศซึ่งเป็นผลมาจากกำลังผลิตส่วนเกินจำนวนมากยังส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาเป็นครั้งคราว ซึ่งบั่นทอนความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต ทั้งปัจจัยบวกการเพิ่มขึ้นของขนาดธุรกิจ และการกระจายตัวของแหล่งรายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยที่อัตราส่วนหนี้สินยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ และธุรกิจไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในทางลบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็มีปัจจัยลบสถานะทางการเงินของบริษัทฯ อ่อนแอลง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า สูงกว่า 2.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้มีการลดลงอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น