xs
xsm
sm
md
lg

ธปท. ชี้ ศก. เดือน พ.ค.ปีนี้ ยังปรับตัวดีขึ้น แต่มีบางส่วนโดนพิษ ศก.ยูโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธปท.ชี้ภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ค.ปีนี้ ยังปรับตัวดีขึ้น ทั้งภาคการผลิต การบริโภค การส่งออก และการท่องเที่ยว แม้ในบางธุรกิจจะเริ่มเผชิญผลกระทบจากวิกฤตยุโรปบ้าง แต่ไม่รุนแรง

นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคม 2555 ปรับตัวดีขึ้น โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.9% จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 1% สอดคล้องกับการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 73.3% จากเดือนก่อนหน้า 68.3% โดยเฉพาะการผลิตยานยนต์ที่เร่งตัวขึ้น เพราะต้องเร่งส่งของที่ค้างอยู่ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม เช่นเดียวกับการผลิตเบียร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลยูโร

ทั้งนี้ ภาวะที่ภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นช่วยสนับสนุนให้อุปสงค์ในประเทศขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 4.1% จากเดือนก่อนติดลบ 1.2% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 1.8% ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน 3.3% ส่วนรายได้ภาคการเกษตร แม้การผลิตภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาหดตัว โดยรายได้เกษตรเดือนนี้ขยายตัวติดลบ 4.3% ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ติดลบ 13.4%

สำหรับภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 1.54 ล้านคน ใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ 1.68 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจีน รัสเซีย อินเดีย มีอัตราการเข้าพัก 53.8% จากเดือนก่อน 58.4% ด้านภาคการส่งออกแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตยุโรปบ้าง ทำให้สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับที่เคยส่งไปยุโรปชะลอไปบ้าง แต่ภาคการส่งออกโดยรวมยังขยายตัวได้ที่ระดับ 6.7% จากเดือนก่อนหน้าที่ติดลบ 3.5%

“สรุปในเดือน พ.ค. ภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ทั้งในภาคการผลิต อุตสาหกรรม การบริโภคในประเทศ การลงทุน ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคการผลิตที่ปรับดีขึ้น ส่วนการท่องเที่ยวก็ยังดี ส่งออกฟื้นตัวได้ การว่างงานต่ำเพียง 0.9% ด้านเงินเฟ้อทั่วไปเร่งขึ้นเล็กน้อยจากราคาอาหารสดที่แพงขึ้น ซึ่งจากการสอบถามความเห็นนักธุรกิจในเดือนนี้ส่วนใหญ่ยังสะท้อนว่า มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ แม้ในบางกลุ่มธุรกิจจะเริ่มได้รับผลกระทบจากวิกฤตยุโรปบ้าง แต่ยังไม่รุนแรง โดยความเชื่อมั่นปัจจุบันอยู่ที่ 53.8 จุด ส่วนในระยะ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 54.6 จุด แม้ว่าจะห่วงต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นบ้าง” นายเมธีกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น