กรุงไทยพอใจปล่อยกู้เอสเอ็มอี 5 เดือนแรกไปแล้วกว่า 3.5 หมื่นล้าน มั่นใจทั้งปีโตได้ตามเป้า พร้อมเดินหน้าสนับสนุนสินเชื่อโครงการอนุรักษ์พลังงาน ล่าสุด จับมือชิงหัวถงฟาง นำร่องโครงการประหยัดพลังงานที่สำนักงานใหญ่ และสาขาทั่วประเทศ
นายประสิทธิ์ วสุภัทร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อ SME ไปแล้วจำนวน 35,000 ล้านบาท โดยในปีนี้ ธนาคารเน้นธุรกิจในภาคการผลิต บริการ และการค้า โดยเฉพาะธุรกิจที่ก่อให้เกิดการจ้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น รวมทั้งธนาคารยังให้ความสำคัญกับการขยายสินเชื่อ SME ไปสู่ลูกค้ารายย่อย
นอกจากนี้ ในด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ธนาคารได้สนับสนุนสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อ KTB Green Loan สินเชื่อ KTB Energy Saving และโครงการเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งธนาคารเป็นธนาคารเดียวที่ได้รับแต่งตั้งจากกองทุนสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้จัดการกองทุนเงินกู้
ล่าสุด ธนาคารได้ขยายความร่วมมือด้านการประหยัดพลังงาน กับ บริษัทชิงหัวถงฟาง ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศจีน และได้รับการจัดอันดับเป็น Top 100 Scientific and Technological Enterprises of China, Top 100 Chinese Enterprises in Electronic Information และ Top 500 World Brands โดยบริษัทจะศึกษา และพัฒนากระบวนการประหยัดพลังงานภายในอาคารสำนักงานใหญ่ และสาขาทั่วประเทศของธนาคาร เพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง และจะขยายผลความร่วมมือ เพื่อพัฒนาโครงการประหยัดพลังงานในประเทศไทย โดยธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อ KTB Green Loan แก่ลูกค้าของบริษัทชิงหัวถงฟาง ผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้า SME รวมทั้งลูกค้าทั่วไป
“ในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าสินเชื่อ SME ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังจากเหตุน้ำท่วมช่วงปลายปีที่ผ่านมา และธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับสินเชื่อโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในปี 2554 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารปล่อยไปแล้ว จำนวน 4,800 ล้านบาท และอยู่ระหว่างอนุมัติอีก 1,900 ล้านบาท ส่วนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารออมสิน ธนาคารปล่อยไปแล้ว 2,800 ล้านบาท โดยธนาคารมีนโยบายให้สาขาและสำนักงานธุรกิจทั่วประเทศ ลงพื้นที่เพื่อดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง”