xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ แนะกลยุทธ์หุ้นวันนี้...รอซื้อลุ้นรีบาวนด์ระยะสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ (15 พ.ค.) รอซื้อลุ้นรีบาวนด์ระยะสั้นแถวแนวรับ โดยแนวโน้มตลาด “ลงต่อมีลุ้นรีบาวนด์แถว 1,160-1,150”

ภาพรวมยังดูย่ำแย่จากแรงกดดันเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรป โดยเฉพาะผลกระทบด้านการเมืองในกรีซที่ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้กรีซต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนไป ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนหากเป็นเช่นนั้น จะเป็นความเสี่ยงต่อประเทศอื่นๆ ที่เหลืออาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ อีกทั้งประเด็นการบันทึกขาดทุนอย่างมีนัยจากการลงทุนของเจพี มอร์แกน ยังสร้างความปั่นป่วนให้แก่กลุ่มสถาบันการเงินสหรัฐฯ และข้อมูลภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอทั้งในยุโรป และจีน ทำให้มีความกังวลเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่มากกว่าคาดเข้ามาซ้ำเติมภาพรวม จึงเกิดแรงขายหนักในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัว เช้านี้ (07.50 น.) อยู่ที่ระดับ 31.36 บาท/ดอลลาร์ มองหาก SETI ลงต่อมาแถวแนวรับสำคัญบริเวณ 1,160-1,150 น่ามีลุ้นรีบาวนด์ระยะสั้น หลังร่วงหนักมาหลายวัน

แนวต้าน : 1,173-1,185 แนวรับ : 1,160-1,150

วิเคราะห์รายวัน
BH : ทยอยซื้อ กำไร 1Q55 โตโดดเด่น 40.12% y-y 55.71% q-q
กำไรสุทธิ 1Q55 โตโดดเด่น 40.12% y-y 55.71% q-q โดยมีกำไรที่ 582.65 ล้านบาท ปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี เพิ่มขึ้นเป็น 2,132.16 ล้านบาท 32.78%y-y ปรับราคาพื้นฐานเป็น 67 บาทต่อหุ้น แนะนำ “ทยอยซื้อ”

AMATA : ซื้อเก็งกำไร กำไร 1Q55 เติบโต 76% y-y
กำไรสุทธิ 1Q55 เติบโตดี เพิ่ม 76% y-y การขายที่ดินยังไปได้ดีมุ่งสู่เป้าขายที่ดิน 3 พันไร่ Backlog หนุนกำไรปีนี้ ขณะที่การขายที่ดินที่ดีหนุนการเติบโตต่อเนื่องไปในปีหน้า แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 18.50 บาท

AP : ถือ กำไร 1Q55 เติบโต 218% y-y และ 21% q-q
กำไร 1Q55 เติบโต 218% y-y และ 21% q-q ยอดจอง และ Backlog ยังยืนยันการเติบโตปีนี้ Upside น้อยลง ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาพื้นฐาน 6.70 บาท

IVL : ซื้อ คาดกำไรใน 2Q55 ฟื้นตัว
กำไรปกติใน 1Q55 ลดลง 83.2% y-y แต่ดีขึ้น q-q จากขาดทุน ใน 1Q55 ธุรกิจ PET มีสัดส่วน EBITDA สูงสุดที่ 68.1% ธุรกิจเส้นใยมีสัดส่วนที่ 23.7% แต่ผันผวนน้อยสุด คาดกำไรใน 2Q55 ฟื้นตัว คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 2555 ที่ 47.50 บาท

MCOT : ซื้อ 1Q55 กำไรเป็นไปตามคาด
กำไรสุทธิ 1Q55 ลดลง 2.67% y-y อยู่ที่ 354.69 ล้านบาท ใกล้เคียงที่คาดไว้ โดยรายได้โทรทัศน์ลดลง วิทยุโตเล็กน้อย แต่ได้กิจการร่วมค้าที่โตขึ้นเข้ามาช่วยให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.04% y-y แนวโน้ม 2Q55 คาดจะดีขึ้น q-q ตามฤดูกาล แต่หากเทียบ y-y มองว่าจะยังลดลง เนื่องจากในปีก่อนทั้งรายได้ และกำไรสุทธิทำไว้สูงมาก ในขณะที่ต้นทุน และค่าใช้จ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้น ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลงเป็น 1,641.68 ล้านบาท จากรายได้โทรทัศน์ที่ติดลบใน 1Q55 ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อิง P/E 14 เท่า ราคาพื้นฐาน 33.50 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

STA : ถือ กำไร 1Q ลดลง 77% y-y
งวด 1Q55 กำไรสุทธิ 397 ล้านบาทลดลง 77% y-y จากอัตรากำไรที่ลดลง รวมถึงกำไรจากเงินลงทุนใน บ.ร่วมลดลง แนวโน้ม 2Q55 ยังค่อนข้างยากจากราคาขายที่ลดลง และผลการดำเนินงานที่ไม่ดี แม้ว่านโยบายพยุงราคาจากรัฐบาลไทยจะเริ่มมีการซื้อบ้างแล้วในตลาดแต่อาจไม่มีผลบวกมากนักจากความกังวลต่อภาพเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้น ราคาหุ้นปรับลงมาสะท้อนปัจจัยลบต่อการปรับลดประมาณการแล้ว ณ ราคาปัจจุบันแนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 16 บาท

TMT : ทยอยซื้อ ผลดำเนินงานไตรมาสแรกกลับมาเป็นกำไร
ผลดำเนินงานในไตรมาส 1Q55 กลับมาเป็นกำไรสุทธิ 99.60 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขาดทุนไปถึง 125.83 ล้านบาท ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นจากทั้งปริมาณขายเหล็กและส่วนต่างราคาขาย และต้นทุนที่ปรับตัวตัวดีขึ้น ราคาพื้นฐานปี 55 ที่ 5.80 บาทแนะนำ “ทยอยซื้อ”

Market News :
BEC : ประกาศกำไรสุทธิ 1Q55 โต 31.84% y-y ดีกว่าคาด 7.84% (ที่มา: SET)
ประกาศกำไรสุทธิ 1Q55 ที่ 1,104.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.84% y-y ดีกว่าที่ 1,023.73 ล้านบาทอยู่ 7.84% รายได้ออกมาใกล้เคียงคาด โตขึ้น 6.25% y-y เป็น 3,388.52 ล้านบาท แต่ควบคุมต้นทุนได้ดี โตเพียง 1.33% และค่าใช้จ่ายขาย/บริหารลดลง 2.83% ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ ราคาพื้นฐานอยู่ระหว่างปรับ โดยทางฝ่ายจะพิจารณาประมาณการหลังฟังการประชุมในเช้านี้ ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ถือ”

HANA : ประกาศกำไรสุทธิเหลือเพียง 275 ล้านบาท ลดลง 40% y-y (ที่มา : SET)
กำไรงวด 1Q55 เหลือเพียง 275 ล้านบาท ลดลง 40% y-y เพิ่มขึ้น 372% q-q ยอดขายเพิ่มขึ้น 4% y-y อยู่ที่ 130 ล้านเหรียญ กลุ่ม PCBA ยอดขายเพิ่มขึ้น 32% y-y กลุ่ม IC ลดลง 33% กลุ่ม HMT ลดลง 42% y-y เทียบ q-q ยอดขายเพิ่มขึ้น 11% กลุ่ม PCBA ยอดขายเพิ่มขึ้น 1%% กลุ่ม IC ยอดขายเพิ่มขึ้น 45% และ HMT ยอดขายลดลง 40% อัตรากำไรเหลือเพียง 9% จาก 14% ใน 1Q54 ลดลง 5% จากผลของต้นทุนวัตถุดิบ 3% ค่าแรงงาน 1% และผลกระทบจากน้ำท่วม 1% กำไรที่ประกาศมาคิดเป็นเพียง 17% ของประมาณการทั้งปีที่ประเมินไว้ มีแนวโน้มที่อาจต้องปรับลดประมาณการลงจากอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาด ณ ราคาปัจจุบันแนะนำ “ทยอยขาย” ราคาพื้นฐานเดิม 21.50 บาทอิงบน P/E 11 เท่า

TISCO : สินเชื่อสุทธิเดือนเม.ย. โตต่ออีก 1.8% m-m (ที่มา: SET)
สินเชื่อสุทธิในเดือน เม.ย. 2555 ขยายตัวต่ออีก 1.8% m-m ส่งผลให้ ช่วง 4 เดือนแรกโตแล้ว 7.01% จากสิ้นปี 2554 ด้านเงินฝากเพิ่มขึ้น 14.8% m-m หากเงินกู้ยืมลดลง 8.6% ทำให้อัตรา Loan/(Deposit+ Borrowing) เพิ่มขึ้นจาก 99.2% ในเดือน มี.ค. มาสู่ 104.6% เป้าสินเชื่อทั้งปี 2555 ที่ 17% ยังมีความเป็นไปได้สูง สนับสนุนโดยความต้องการรถยนต์ในส่วนของสินเชื่อ Retail รวมถึงการขยายตัวของสินเชื่อ Corporate/SME ที่ TISCO เข้ารุก ทางฝ่ายคงประมาณการกำไรปี 2555 ที่ 3.63 พันล้านบาท ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 48.30 บาท/หุ้น โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ”

TK : กำไร 1Q55 ต่ำกว่าคาดจากสำรองในระดับสูง (ที่มา: SET)
กำไรสุทธิ 1Q55 มีจำนวนเพียง 136.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% q-q หากแต่ปรับลดลง 7.0% y-y จากสำรองที่ปรับขึ้นสู่ 269.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.05 q-q, 78.6% y-y กำไรที่ออกมานั้นต่ำกว่าที่ทางฝ่ายประเมินไว้ถึง 28.0% จากประเด็นการตั้งสำรองเข้ามาสูงเป็นหลัก ทั้งนี้ แม้คงมุมมองเป็นบวกต่อความต้องการรถจักรยานยนต์ หากกำไร 1Q55 ที่เทียบเท่าเพียง 18.7% ของประมาณการทั้งปี 2555 ที่ 727.24 ล้านบาท ทำให้ทางฝ่ายมีแผนปรับประมาณการลงหลังเข้าพบผู้บริหาร

WORK : กำไรสุทธิ 1Q55 โต 39.62% y-y (ที่มา: SET)
ประกาศกำไรสุทธิ 1Q55 โต 39.62% y-y เป็น 76.97 ล้านบาท และหากเทียบ q-q โต 163.33% จาก 4Q54 ที่มีผลกระทบจากน้ำท่วม รายได้โตขึ้นเพียง 3.85% y-y เป็น 424.17 ล้านบาท มาจากรายได้โฆษณาโทรทัศน์ที่โตขึ้น 10.56% y-y จากการขายโฆษณาได้ดีขึ้น ปรับขึ้นค่าโฆษณา และได้ธุรกิจทีวีดาวเทียมที่ออกอากาศเมื่อ 20 ก.พ. เข้ามาช่วยบางส่วน และธุรกิจรับจ้างจัดงานที่โต 66.80% ต้นทุนลดลง 3.18% และค่าใช้จ่ายขาย/บริหารเพิ่มขึ้น 3.61% กำไร 1Q55 คิดเป็น 20.01% ของประมาณการ ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมามาก ซื้อขายบน P/E 19 เท่า เทียบเคียงกับ BEC ถือว่าแพง จึงปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ขาย” คงราคาพื้นฐานที่ 20 บาท

SIRI : กำไร 1Q55 ดีตามคาด (ที่มา: SET)
กำไร 1Q55 เพิ่ม 57% y-y ตามรายได้ที่เพิ่ม 42% y-y Margin ทรงตัว แต่ได้ผลดีจากภาษี กำไรเติบโตดี แต่กำไรลดลง 68% q-q ตามการลดลงของรายได้ 35% Margin อ่อนลงตามสัดส่วนการรับรู้โครงการ Margin สูง (Quarttro) ลดลงใน 1Q55 ทำให้กำไรอ่อนลง q-q โดยรวมกำไรออกมาดีตามคาด ทางฝ่ายคงประมาณการและ Valuation ที่ 2.30 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ”

HEMRAJ : กำไร 1Q55 สูงจากรายการพิเศษ (ที่มา: SET)
HEMRAJ กลับมากำไร 860 ล้านบาท จากขาดทุน 33 ล้านบาทในงวด 1Q54 โดยยอดโอนที่ดินกลับมา 1.1 พันล้านบาทจาก 145 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นไปตามการขายที่ดินที่ดีตั้งแต่ปีก่อน รายได้เติบโตสูงทำให้กำไรจากการดำเนินงานกลับมา 495 ล้านบาทจาก 45 ล้านบาท แต่เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (หลักๆ จาก Gheco One) สูงถึง 428 ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มผลิตไฟฟ้า ทำให้คาดว่าเป็นการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ที่เป็นสกุลเงิน US$ (130 ล้านบาท) และรายได้ค่าชดเชยจากผู้รับเหมาก่อสร้างที่ส่งงานล่าช้า (300 ล้านบาท) หากไม่มีรายการพิเศษ 2 รายการรวมกัน 430 ล้านบาท มองว่ากำไรกลับมาดีตามที่ประเมินไว้
ทางฝ่ายคง Valuation ที่ 2.50 บาท อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมีแผนทำโครงการอสังหาฯ แห่งใหม่ที่พัทยา ซึ่งจะพัฒนาเป็นโรงแรม, ที่พัก, คอนโดฯ แต่โครงการคงใช้เวลานาน 3-4 ปี คาดว่าจะมี Upside ไม่เกิน 0.30 บาทจาก มูลค่าพื้นฐานที่ 2.50 บาท ณ ราคาล่าสุด แนะนำ “ถือ” มองราคาพื้นฐานเบื้องต้นใหม่ที่ 2.80 บาท

BTS : ชี้แจ้งสัญญารับจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงกับ กทม. (ที่มา: ประชุมนักวิเคราะห์)
บริษัทได้มีการเรียกประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ในเรื่องประเด็นการได้เซ็นสัญญารับจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (O&M) กับกรุงเทพธนาคม (บริษัทของ กทม.) โดยสัญญาแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1) บนเส้นทางหลัก ซึ่งอายุสัมปทานจะหมดใน ธ.ค.2572 จะได้รับจ้าง O&M ไปอีก 13 ปี ถึงปี พ.ค.2585 โดยค่าจ้างปีแรกได้ 6.5 พันล้านบาท และ 2) ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง, ตากสิน-วงเวียนใหญ่ และวงเวียนใหญ่-บางหว้า จากเดิมว่าจ้างปีต่อปี เป็นว่าจ้าง 30 ปีตั้งแต่ 3 พ.ค.2555-2 พ.ค.2585 ค่าจ้างในปี 2557 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท โดยค่าจ้างทั้ง 2 เส้นทางจะปรับขึ้นปีละ 3.8%

การดำเนินการของ กทม. ได้ทำตามกฤษฎีกาที่เคยตีความว่าการว่าจ้าง O&M ในส่วนต่อขยายไม่ได้เป็นการร่วมทุน จึงไม่ต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ จึงได้ดำเนินการว่าจ้างในส่วนของเส้นทางหลัก และเซ็นสัญญาไปเมื่อ 3 พ.ค.2555 ซึ่งจะใช้เป็นข้อชี้แจ้งกรณีที่กระทรวงคมนาคมมีความเห็นว่าต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ และได้มีการส่งเรื่องให้ DSI ตรวจสอบ ประเด็นดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นปัญหาทางการเมือง คงต้องติดตามความคืบหน้า ทางฝ่ายยังคงราคาพื้นฐานที่ 0.92 บาทไว้ก่อน แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

AIT : กำไร 1Q55 ที่ 92 ล้านบาทลดลง 4% y-y (ที่มา : SET)
กำไรงวด 1Q55 เท่ากับ 92 ล้านบาท ลดลง 4% และ 29% y-y และ q-q จากการรับรู้รายได้ลดลง 15% และ 30% y-y และ q-q เนื่องจากผลของน้ำท่วม อีกทั้งความล่าช้าในการรับรู้รายได้ อัตรากำไรทรงตัว y-y ที่ 23.7% เนื่องจากงานส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีมูลค่าไม่สูงเป็นหลัก การควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้รายการดังกล่าวลดลงทั้ง y-y และ q-q งานในมือสิ้น 1Q55 อยู่ที่ 2,313 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ปีนี้ราว 70% อีกทั้งความล่าช้าในการประมูลงานใหม่ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ทางฝ่ายอาจต้องปรับลดประมาณการลงจากเดิม ณ ราคาปัจจุบัน ทางฝ่ายปรับลดคำแนะนำเหลือเพียง “ถือ” จากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น