ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ โกยกำไรงวดนี้ 1,565 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32% จากงวดเดียวกันของปี 54 เหตุรายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อยไตรมาสนี้สูงถึง 12,100 ล้านบาท เพราะค่าความพร้อมจ่ายไตรมาสนี้สูงกว่าปีก่อน และกำไรจากค่าเงินเพิ่ม
นายสมหมาย ภูษณชาคร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ว่ามีกำไรสุทธิ 1,565 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,196 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 369 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 32%
โดยงวดนี้ รายได้รวมของบริษัทฯและบริษัทย่อยไตรมาสแรกปีนี้ 12,120.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ปี 54 ที่ทำไว้ 8,471.28 ล้านบาท) เป็น 3,649.60 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.08% เนื่องจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไตรมาสนี้มี 3,647.37 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 3,160.05 ล้านบาท หรือสูงขึ้น 487.32 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รวมรายได้ค่าความพร้อมจ่าย 880.17 ล้านบาท ของโรงไฟฟ้าของ RATCH-Australia Corporation Limited (RATCH-Australia) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศออสเตรเลียที่บริษัทฯ ได้เข้าทำการซื้อหุ้นสามัญ 80% เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 54
ขณะที่รายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรีไตรมาสแรกปีนี้ต่ำกว่างวดเดียวกันของปี 54 จำนวน 2,767.20 ล้านบาท ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน คือ 3,160.05 ล้านบาท) เป็น 392.85 ล้านบาท คิดเป็น 12.43% ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราค่าความพร้อมจ่ายในปี 55 ต่ำกว่าปี 54 ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ประกอบกับในระหว่างไตรมาสที่ 1 ปี 55 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมชุดที่ 3 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนเครื่องที่ 1 มีการหยุดเดินเครื่องเพื่อทำการบำรุงรักษาตามแผนและซ่อมอุปกรณ์โรงไฟฟ้า ตามลำดับ
ขณะที่บริษัทมีรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้างวดนี้ 8,109.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ปี 54 เกือบ 65% เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในโรงไฟฟ้าราชบุรีปรับสูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับในไตรมาสที่ 1 ปี 55 โรงไฟฟ้ามีการหยุดเดินเครื่องตามความต้องการของระบบ (Reserve Shutdown) ลดลง ทำให้ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าสูงกว่าปีก่อน และบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันและบริษัทร่วม รวมทั้งสิ้น 106.01 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสแรกปี 54 เนื่องจากบริษัท ไตรเอนเนอจี้ จำกัด ซึ่งเป็นกิจการที่ควบคุมร่วมกัน มีผลการดำเนินงานลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็น 129.67 ล้านบาท เนื่องจากการหยุดเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าในเดือนมีนาคม 55 เพื่อซ่อมอุปกรณ์
โดยงวดนี้บริษัทมีดอกเบี้ยรับ 117.40 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสแรกปี 54 ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายงวดนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสปี 54 เป็น 3,755.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.47% เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงสูงขึ้นจากราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับโรงไฟฟ้ามีการหยุดเดินเครื่องตามความต้องการของระบบลดลง และต้นทุนขายอื่นๆ ก็สูงขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนการเงิน ขณะที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้นกว่า 400 ล้านบาท เพราะบริษัท อาร์เอชอินเตอร์เนชั่นแนล (สิงค์โปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนของหุ้นกู้ 15,000 ล้านเยน เป็น 427.22 ล้านบาท
นายสมหมาย ภูษณชาคร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ว่ามีกำไรสุทธิ 1,565 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,196 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 369 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 32%
โดยงวดนี้ รายได้รวมของบริษัทฯและบริษัทย่อยไตรมาสแรกปีนี้ 12,120.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ปี 54 ที่ทำไว้ 8,471.28 ล้านบาท) เป็น 3,649.60 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.08% เนื่องจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไตรมาสนี้มี 3,647.37 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 3,160.05 ล้านบาท หรือสูงขึ้น 487.32 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รวมรายได้ค่าความพร้อมจ่าย 880.17 ล้านบาท ของโรงไฟฟ้าของ RATCH-Australia Corporation Limited (RATCH-Australia) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศออสเตรเลียที่บริษัทฯ ได้เข้าทำการซื้อหุ้นสามัญ 80% เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 54
ขณะที่รายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรีไตรมาสแรกปีนี้ต่ำกว่างวดเดียวกันของปี 54 จำนวน 2,767.20 ล้านบาท ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน คือ 3,160.05 ล้านบาท) เป็น 392.85 ล้านบาท คิดเป็น 12.43% ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราค่าความพร้อมจ่ายในปี 55 ต่ำกว่าปี 54 ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ประกอบกับในระหว่างไตรมาสที่ 1 ปี 55 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมชุดที่ 3 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนเครื่องที่ 1 มีการหยุดเดินเครื่องเพื่อทำการบำรุงรักษาตามแผนและซ่อมอุปกรณ์โรงไฟฟ้า ตามลำดับ
ขณะที่บริษัทมีรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้างวดนี้ 8,109.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ปี 54 เกือบ 65% เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในโรงไฟฟ้าราชบุรีปรับสูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับในไตรมาสที่ 1 ปี 55 โรงไฟฟ้ามีการหยุดเดินเครื่องตามความต้องการของระบบ (Reserve Shutdown) ลดลง ทำให้ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าสูงกว่าปีก่อน และบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันและบริษัทร่วม รวมทั้งสิ้น 106.01 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสแรกปี 54 เนื่องจากบริษัท ไตรเอนเนอจี้ จำกัด ซึ่งเป็นกิจการที่ควบคุมร่วมกัน มีผลการดำเนินงานลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็น 129.67 ล้านบาท เนื่องจากการหยุดเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าในเดือนมีนาคม 55 เพื่อซ่อมอุปกรณ์
โดยงวดนี้บริษัทมีดอกเบี้ยรับ 117.40 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสแรกปี 54 ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายงวดนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสปี 54 เป็น 3,755.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.47% เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงสูงขึ้นจากราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับโรงไฟฟ้ามีการหยุดเดินเครื่องตามความต้องการของระบบลดลง และต้นทุนขายอื่นๆ ก็สูงขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนการเงิน ขณะที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้นกว่า 400 ล้านบาท เพราะบริษัท อาร์เอชอินเตอร์เนชั่นแนล (สิงค์โปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนของหุ้นกู้ 15,000 ล้านเยน เป็น 427.22 ล้านบาท