xs
xsm
sm
md
lg

กลุยุทธฺหุ้นวันนี้ ขยับพอร์ตเป็น 50% เมื่อยืนเหนือ 1,180 จุด ภาพรวมยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้กลยุทธ์การลงทุน “วันนี้ยืนเหนือ 1,180 ขยับพอร์ตเป็น 50%” แนวโน้มตลาดวันนี้ “ลงก่อนจากแรงกดดันภายนอก แต่ยังมีลุ้นดีดตัวได้หากไม่รีบหลุด 1,175”

ทั้งนี้ ภาพรวมจากภายนอกดูค่อนข้างอ่อนแอ หลังผิดหวังผลประมูลพันธบัตรของสเปน และอิตาลี และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แย่กว่าคาด เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก, ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจในเขตมิด-แอตแลนติก, ยอดขายบ้านมือสอง เป็นต้น หากแต่การกลับมาซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องอีกครั้งของนักลงทุนต่างชาติทั้งในตลาดหุ้น และอนุพันธ์ จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการประคองการอ่อนตัว รวมถึงหนุนการดีดกลับได้ ขณะที่ในเชิงเทคนิคแล้ว มีสัญญาณซื้อในเครื่องมือหลายตัว ทำให้ภาพระยะสั้นกลับมาเป็น Bullish หลังดัชนีดีดตัวเหนือ 1,180 โดยรวมวันนี้ มองดัชนีอาจอ่อนตัวลงก่อนจากแรงกดดันภายนอก และการดีดตัวกว่า 17 จุด วานนี้ แต่ยังมีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อตราบเท่าที่ยังไม่หลุด 1,175

กลยุทธ์การลงทุน : เพิ่มพอร์ตเป็น 50% เมื่อยืนเหนือ 1,180 ได้อย่างแข็งแกร่ง หุ้น AUTO น่าสนใจจากยอดผลิตที่พุ่งสูงสุดในรอบ 50 ปี

แนวต้าน : 1,193-1,200 แนวรับ : 1,175-1,167

วิเคราะห์รายวัน
BANPU : ซื้อ คาด 1Q55 กำไร Core business ยังเพิ่ม y-y และ q-q
คาด 1Q55 กำไรจาก Core business ยังเพิ่มขึ้นทั้ง y-y และ q-q ปริมาณการจำหน่ายถ่านหินจากแหล่งอินโดนีซียเพิ่มขึ้น แต่จากแหล่งออสเตรเลียลดลง สำหรับราคาขายดีขึ้น y-y ทรงตัว q-q โดยกฎหมายใหม่ในอินโดนีเซีย และออสเตรเลียไม่กระทบ BANPU จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี ลงเป็น 12,842 ล้านบาท จากเดิมที่ 15,002 ล้านบาท แต่ก็ยังโตขึ้น 21.61%y-y (เปรียบเทียบก่อนรายการพิเศษ) ทั้งนี้ เพราะกำไรในครึ่งปีแรกอ่อนตัวเพราะเป็นช่วงฤดูฝน ปริมาณจำหน่ายน้อยกว่าปกติ ต้นทุนดีเซลเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังกำไรจะดีขึ้นเพราะพ้นช่วงฤดูฝน และราคาถ่านหินที่ปรับสูงขึ้นในเหมืองออสเตรเลีย และปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 780 บาทต่อหุ้น จากเดิม 840 บาทต่อหุ้น แนะนำ “ซื้อ”

ERW : ซื้อ คาดกำไรสุทธิ 1Q55 เพิ่มขึ้น 22.85% y-y
ใน 1Q55 ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวดีกว่าคาด ผลักดันให้กำไรเติบโตสูง คาดเพิ่มขึ้น 22.85% y-y โดยโรงแรมนาคา ภูเก็ต หลังรีแบรนด์ประสบความสำเร็จตามเป้า มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นสูงสุด และโรงแรมกลุ่ม Luxury Bangkok ฟื้นตัวแรง มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 80.8% ส่วนใน 2Q55 คาดบริษัทจะมีบันทึกกำไรพิเศษ ช่วยลดผลกระทบจาก Low Season ของธุรกิจโรงแรม กำไรงวด 1Q55 เกือบเท่ากับประมาณการกำไรปี 2555 ที่คาดไว้ มีโอกาสปรับขึ้น ราคาพื้นฐานปี 2555 ที่ 3.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”

SIRI : ซื้อ ยอดจองแข็งแกร่ง แนวโน้มกำไรดี
ยอดจองแนวราบ 1Q55 ดีกว่าคาด 40% คาดกำไร 1Q55 เติบโต 20% จากแรงหนุนยอดโอน ทำให้แนวโน้มกำไรไปได้ดี ทางฝ่ายปรับเพิ่มกำไรปีนี้ 17% ราคาหุ้นเริ่มมี Upside ปรับขึ้นเป็น “ซื้อ”

TOG : ทยอยซื้อ คาด 1Q55 กำไรฟื้นตัวแข็งแกร่ง
จากคำสั่งที่ถูกเลื่อนมาจาก 4Q54 และโรงงานผลิตเลนส์รายอื่นที่ยังไม่ฟื้นตัวจากน้ำท่วม ทำให้ยอดคำสั่งซื้อในสินค้ากลุ่ม Value Added มีเข้ามามาก คาดจะทำให้รายได้โต 30.16% y-y และกำไรดำเนินงานปกติฟื้นตัวขึ้น 98.30% เมื่อรวมเงินชดเชยจากน้ำท่วม จะมีกำไรสุทธิ 63.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228.61% y-y ส่วน 2Q55 ยังคงมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง ทำให้ครึ่งปีแรกผลประกอบการยังไปได้ดี แต่การปรับขึ้นค่าแรงและปรับลดราคาสินค้ากลุ่ม Value Added จะมีผลต่ออัตรากำไร แม้จะได้ประโยชน์จากภาษีที่ลดลงเข้ามาช่วยชดเชย ยังคงคาดการณ์รายได้และกำไรในปี 55 ไว้เช่นเดิม ราคาพื้นฐาน 3.56 บาท อิง P/B 1 เท่า ยังคงแนะนำ “ทยอยซื้อ”

TISCO : ซื้อ คาดการขยายตัวของสินเชื่อเป็นปัจจัยสนับสนุนผลกำไร
ผลกำไรสุทธิรวมใน 1Q55 อยู่ที่ 836.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% q-q หากแต่ทรงตัว y-y โดยผลประกอบการฟื้นตัวได้ดี q-q สนับสนุนโดยสำรองที่ปรับลงหลังคุณภาพสินทรัพย์ไม่เป็นปัญหา ขณะรายได้ค่าธรรมเนียมฟื้นตัวได้เร็ว อย่างไรก็ตาม เริ่มมีบันทึกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแก่ DPA รวม ถึงมีค่าใช้จ่าย Business Promotion ด้วยวิธีใหม่ ส่งผลให้มี Cost/ Income ขยับสูงขึ้น จึงคาดหมายสินเชื่อในช่วงเวลาที่เหลือของปีขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง สนับสนุนโดยความต้องการสินเชื่อจากทุกภาคธุรกิจ ทางฝ่ายแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาพื้นฐานอยู่ที่ 48.30 บาท/หุ้น

AUTO : ลงทุนมากกว่าปกติ ยอดผลิตรถยนต์เดือน มี.ค.55 สูงสุดในรอบ 50 ปี
ส.อ.ท. ประกาศยอดผลิตรถยนต์เดือน มี.ค.55 จำนวน 190,935 คัน สูงสุดนับตั้งแต่มีการผลิตรถยนต์ปี 2504 โดยคาดผลดำเนินงานของกลุ่มยานยนต์ ในไตรมาส 1Q55 จะกลับมาเป็นบวก และปรับตัวดีขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คงคำแนะนำ “ลงทุนมากกว่าปกติ” ในกลุ่มยานยนต์ โดยมี Top pick คือ SAT (ราคาพื้นฐาน 32 บาท)

Market News
CIMBT : กำไร 1Q55 ลดลง 25.2% q-q แต่เพิ่มขึ้น 22.2% y-y (ที่มา: SET)
กำไรสุทธิใน 1Q55 มีจำนวน 344.13 ล้านบาท ลดลง 25.2% q-q เนื่องจากใน 4Q54 มีส่วนแบ่งกำไรจากการบริหาร NPA ของ บสท. มูลค่า 1.01 พันล้านบาท อีกทั้งมีกำไรการขาย NPL ให้บริษัทในเครือ ขณะเทียบ y-y กำไรขยายตัว 22.2% จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียม โดยสินเชื่อสุทธิปรับลง 1.4% ytd ขณะ NIM อ่อนตัวมาที่ 3.2% จากภาวะการแข่งขันด้านเงินฝาก สำรองขยับขึ้น y-y หากลดลง q-q รายได้ค่าธรรมเนียมโตได้ดี q-q, y-y หากแต่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานยังสูงอยู่ ส่งผลให้ Cost/Income เฉลี่ยอยู่ที่ 72.9% เทียบ 54.6% q-q, 77.5% y-y อย่างไรก็ตาม การประเมินหุ้น CIMBT มีข้อจำกัดด้านข้อมูล อีกทั้งไม่ได้มีการเข้าพบผู้บริหาร อย่างไรก็ตาม พิจารณาจาก NPL ที่ขยับขึ้น q-q จาก 3.4% สู่ 3.6% และ Coverage Ratio ที่ยังค่อนข้างต่ำที่เพียง 77.5% ทำให้ยังมีความกังวลความเป็นไปได้ในการตั้งสำรองเพิ่มเติม นอกจากนี้ Tier-1 ต่ำที่เพียง 7.6% ก็ยังเป็นปัจจัยกังวลอีกประการ ทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ทยอยขาย” โดยประมาณการ และราคาพื้นฐานอยู่ระหว่างปรับ

KK : กำไรสุทธิ 1Q55 ปรับลง q-q, y-y (ที่มา: SET)
กำไรสุทธิ 1Q55 อยู่ที่ 577.38 ล้านบาท ปรับลง 15.4% q-q, 7.5% y-y โดยเป็นผลจากต้นทุนการเงินที่ขยับขึ้น อีกทั้งในไตรมาสนี้มีกำไรการขาย NPA ปรับลด จึงทำให้แม้ Cost/Income ลดลงบ้าง q-q หากยังอยูในระดับสูงเมื่อเทียบ y-y โดยสินเชื่อขยายตัวสูง 7% ytd สนับสนุนโดยธุรกิจเช่าซื้อ หาก Interest Spread ปรับลงสู่ 3.5% จากการแข่งขันและการตั้งค่าธรรมเนียมค้างจ่ายเพื่อชำระหนี้ FIDF รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิโต q-q, y-y หากแต่มีกำไรการขาย NPA ปรับลดลง จึงส่งผลให้รายได้ดำเนินงานปรับลง 8.1% q-q และเพิ่มขึ้นเพียง 1.7% y-y ค่าใช้จ่ายดำเนินงานนั้นปรับลง q-q จาก 4Q54 ที่มีรายจ่ายน้ำท่วมแต่เพิ่มขึ้น y-y ตามการขยายสาขาและพนักงาน ขณะในส่วนของสำรองนั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ด้านกำไร 1Q55 เทียบเท่า 18.0% ของประมาณการทั้งปี 2555 ที่ 3.09 พันล้านบาท โดยทางฝ่ายอาจปรับประมาณการหลัง Analyst Meeting ในสัปดาห์หน้า ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” โดยยังมีปันผล 2H54 ที่ 1.40 บาท/หุ้น เป็นปัจจัยสนับสนุน (XD วันที่ 3 พ.ค. และจ่ายปันผล 25 พ.ค. 2555)
กำลังโหลดความคิดเห็น