บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้กลยุทธ์การลงทุนตลาดห้นไทยช่วงเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) ว่า “ระวังมากขึ้นสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น” โดยให้แนวโน้มตลาดเป็น : Sideways down
ทั้งนี้ เนื่องจากหลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อเดือนก่อนเผยมีกรรมการเฟดเพียง 2-3 คนที่คิดว่าอาจจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นมากขึ้นหากเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาด ทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่อง QE3 จึงส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวแข็งค่า และบาทอ่อนตัวลงรวดเร็ว โดยเช้าวันนี้ ณ 7.45 น. อยู่ที่ 30.88 บาท/ดอลลาร์ กอปรกับเป็นช่วงใกล้วันหยุดยาวหลายช่วงของไทย จึงต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะสลับออกมาภายหลังตลาดดีดตัวแรงวานนี้ มอง SETI วันนี้จะผันผวนในกรอบ Sideways down ขณะที่ตลาดหุ้นหลายประเทศหยุดทำการวันนี้ เช่น ฮ่องกง, ไต้หวัน, จีน
แนวต้าน : 1,214-1,220 แนวรับ : 1,204-1,197
วิเคราะห์รายวัน
BAY : ซื้อเก็งกำไร คาดกำไร 1Q55 ฟื้นตัว q-q, y-y มาที่ 2.87 พันล้านบาท
คาดหมายกำไรสุทธิ 1Q55 ขยายตัว 5 เท่า q-q, 2.3% y-y มาที่ 2.87 พันล้านบาท การรับโอนธุรกิจรายย่อยของ HSBC แล้วเสร็จสิ้นมี.ค. 55 โดยส่งผลให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 1.5% สำหรับรายได้จะเริ่มบันทึกใน 2Q55 สินเชื่อรวมทั้งปีมีโอกาสโตเกิน 11% เมื่อนับรวมสินเชื่อของ HSBC และ Soft Loan แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 30.90 บาท/หุ้น
GRAMMY : ขายทำกำไร ปรับแผนธุรกิจทีวีดาวเทียม
ได้ผู้บริหารใหม่คุมธุรกิจขายกล่องรับสัญญาณ และได้ re-brand ชื่อเป็น GMM Z จาก 1 SKY พร้อมปรับเป้ายอดขายกล่องจาก 1.5 ล้าน เป็น 2 ล้านกล่อง หลังจับมือขายกับพันธมิตรหลายราย ธุรกิจทีวีดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกคาดจะเริ่มได้กลางเดือน ก.ค. โดยบริษัทคาดจะมียอดสมาชิกที่ 10-15% ของกล่อง GMM Z ที่ขายได้ ยังคงไม่ปรับประมาณการ แม้ผู้บริหารจะปรับเป้าการขายกล่องขึ้น โดยมองยังมีความเสี่ยงจากธุรกิจบอกรับสมาชิกที่มีต้นทุนสูง และเป้าการขายอาจไม่เป็นไปตามคาด ราคาพื้นฐาน 17.60 บาท ยังคง แนะนำ “ขายทำกำไร”
JAS : ทยอยซื้อ บอร์ดแบนด์ยังเป็นตัวเอก
ยอดผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ (Broadband) ในปี 2554 เพิ่มขึ้น 234,000 ราย เพิ่มขึ้น 29% โดยมียอดผู้ใช้ทั้งสิ้น 1,028,000 ราย ทำให้โครงสร้างรายได้จาก Broadband เพิ่มขึ้นเป็น 67% จากปีก่อนที่ 51% ปัจจุบันมีลูกค้า Wifi 250,000 ราย เพิ่มจากสิ้นปี 2554 ที่ 230,000 ราย ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 1,552 ล้านบาท เติบโตขึ้นได้อีก 19.2% y-y (จาก core business ที่ 1,302 ล้านบาท) และปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 3.00 บาทต่อหุ้น
SMT : ถือ แนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าบ.อื่น
แม้จะเริ่มกลับมาตั้งแต่ปลาย ธ.ค. เป็นต้นมา แต่การใช้กำลังการผลิตที่ค่อนข้างต่ำคาดว่าจะยังขาดทุนอีกราว 2 ไตรมาส คาดผลการดำเนินงานปี 2555 จะกลับมากำไรอย่างโดดเด่นหลังการได้รับเงินประกันคืน แต่หากพิจารณาเฉพาะการดำเนินงานคาดว่าจะลดลง แนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 9.50 บาท
TOG : ทยอยซื้อ กลับมาฟื้นตัวได้เร็ว
ยอดขายใน 1Q55 กลับมาฟื้นตัวได้ดีหลังน้ำท่วม ทั้งจากคำสั่งซื้อใหม่และที่เลื่อนมาจาก 4Q54 ทำให้มีโอกาสที่ยอดขายจะเติบโตได้ y-y แต่อัตรากำไรขั้นต้นอาจลดลงจากการปรับลดราคาสินค้า สัดส่วนของสินค้าที่ขายปีนี้จะเปลี่ยนไปจากเดิม สินค้าพื้นฐานจะมีส่วนแบ่งลดลงเหลือ 29% ในขณะที่สินค้า Value Added จะเพิ่มขึ้นเป็น 66% จากปีก่อนที่มี 42% และ 50% ปรับกำไรสุทธิขึ้นเป็น 221.29 ล้านบาท ซึ่งรวมเงินชดเชยจากประกันภัยที่คาดว่าจะรับรู้กลับทั้งหมด 105 บาทที่บันทึกเป็นค่าเสียหายใน 4Q54 อิง P/B 1 เท่า ราคาพื้นฐาน 3.56 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ทยอยซื้อ”
Market News
CPF/GFPT : สหภาพยุโรป แถลงยกเลิกมาตรการเข้มงวดการนำเข้าเนื้อไก่สดจากประเทศไทย หลังใช้มาตรการเข้มงวดนี้ ตั้งแต่ปี 2004 เนื่องจาก ไข้หวัดนกระบาด เริ่ม 1 ก.ค.
ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวที่ตลาดได้รับทราบไปก่อนหน้าแล้วว่าอียูจะยกเลิกการนำเข้าไก่สดจากไทยจากไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน เพียงแต่รอคำสั่งที่ชัดเจนจากทางการของอียูเท่านั้น จากการยกเลิกห้ามนำเข้าไก่สดมองเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ประกอบการในกลุ่มดังกล่าวทั้ง CPF และ GFPT แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” สำหรับ CPF ราคาพื้นฐาน 38.50 บาท ส่วน GFPT “ถือ” ราคาพื้นฐาน 10.20 บาท
