นาทีนี้บริษัทโทรคมนาคมทั่วโลกพร้อมใจขานรับเครือข่ายไว-ไฟ (WiFi) แห่งอนาคตที่มีประสิทธิภาพและฉลาดกว่าเดิม หลายคนถามว่าไว-ไฟจะฉลาดขึ้นอย่างไร ช่องโหว่เรื่องความปลอดภัยมีหรือไม่ และเมืองไทยจะเริ่มใช้งานได้เมื่อใด บทความนี้มีคำตอบรออยู่แล้ว
เดิมที ชาวไว-ไฟนั้นต้องเลือกบริการที่ต้องการ (WiFi Hotspot Selection) ให้ถูกต้อง เช่นเดียวกับการใช้ไว-ไฟในต่างประเทศที่มักเป็นปัญหาสำหรับผู้จำชื่อเครือข่ายไม่ได้ หลังจากนั้น ชาวไว-ไฟจะต้องจำบัญชีใช้งาน (username และ password) ก่อนจะเปิดเว็บไซต์ใดก็ได้เพื่อให้ระบบ redirect มายังหน้าล็อกอิน ผู้ใส่ชื่อและรหัสผ่านที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้
แต่ไว-ไฟเจเนอเรชันใหม่ที่ถูกเรียกว่าไว-ไฟ 2.0 (WiFi 2.0) นั้น จะทำให้ผู้ใช้ไว-ไฟเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายจะไม่ต้องเสียเวลานึกหรือขอชื่อบัญชีและรหัสผ่าน เพื่อกรอกล็อกอินใช้งานอีกต่อไป แต่สามารถเสียบซิมโทรศัพท์มือถือเข้ากับอุปกรณ์แล้วเชื่อมต่อไว-ไฟได้ทันที เรียกว่าลดขั้นตอนในการเปิดใช้งานไว-ไฟได้อย่างน่าประทับใจ
ผลคือผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเลือกเน็ตเวิร์กที่ต้องการล็อกอิน ไม่ต้องพบกับปัญหาจำบัญชีใช้งานไม่ได้ แถมไม่ต้องเปิดเว็บเบราเซอร์ เพราะไว-ไฟ 2.0 จะล็อกอินให้อัตโนมัติ
เคล็ดลับความสำเร็จของเทคโนโลยีนี้คือการตรวจสอบผู้ใช้งานไว-ไฟจากหมายเลขโทรศัพท์ เพียงเสียบซิมการ์ดของโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเข้ากับอุปกรณ์ ก็จะสามารถใช้งานไว-ไฟของค่ายนั้นได้ทันทีในทุกที่ที่มีสัญญาณ ที่สำคัญ การใช้งานผ่านไว-ไฟ 2.0 จะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะจะมีการเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลเหมือนกับการเข้ารหัสข้อมูลบนเครือข่ายมือถือทุกประการ ผิดจากไว-ไฟปัจจุปันที่ส่วนใหญ่ไม่เข้ารหัสการรับส่งข้อมูล เสี่ยงต่อนักแฮกที่สามารถเข้ามาแอบบดูหรือขโมยข้อมูลที่สำคัญไปได้
"ทรูมูฟ เอช" ถือเป็นโอเปอเรเตอร์แรกในเอเชียที่ประกาศทดสอบไว-ไฟ 2.0 โดยร่วมมือกับสมาพันธ์ WBA (Wireless Broadband Alliance) และซิสโก้นำจุดกระจายสัญญาณไว-ไฟ 2.0 ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าฮอตสปอต 2.0 (Hotspot 2.0) มาเปิดให้ชาวไทยทดลองสัมผัสครั้งแรกในเอเชีย บนจุดประสงค์ให้ลูกค้าทรูมูฟ เอชเชื่อมโยงสัญญาณระหว่าง WiFi และ 3G ได้อัตโนมัติ
ผู้บริหารทรูมูฟ เอชมองว่าการลดขั้นตอนลงชื่อใช้งานไว-ไฟจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์"เชื่อมโยงสัญญาณระหว่าง WiFi และ 3G อย่างอัตโนมัติ" ผลคือผู้ใช้สามารถออนไลน์ไร้สายได้ตลอดเวลา ราบรื่นไม่ติดขัดแม้ขณะปรับเปลี่ยนการเชื่อมโยงสัญญาณ ส่งผลให้ทรูมูฟ เอชมีพื้นที่บริการครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ ไว-ไฟ 2.0 ของทรูยังครอบคลุมถึงการนำเครื่องไปใช้งานในต่างประเทศที่ทรูมีพันธมิตรอยู่ ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ไว-ไฟกับพันธมิตรทรูมูฟ เอชในประเทศนั้นๆได้โดยอัติโนมัติ สะดวกสบายเพราะไม่ต้องยุ่งกับขั้นตอนไว-ไฟดั้งเดิมอีกต่อไป
ทรูมูฟ เอชเปิดให้ผู้สนใจสามารถทดลองใช้บริการได้ที่ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 และทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากประเทศไทย เทคโนโลยีไว-ไฟ 2.0 ยังถูกทดสอบในฟิลิปปินส์ และฮ่องกง โดยผลการทดสอบจะถูกนำไปเสนอในการประชุม GSMA World Congress ที่เพิ่งจัดขึ้นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวโน้มชัดเจนว่า ไวไฟ ฮอตสปอต 2.0 จะมีอิทธิพลกับตลาดการสื่อสารและโทรคมนาคมอย่างกว้างขวางในอนาคต ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้เครื่องมือสื่อสารไร้สายทั่วโลกที่คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 7.1 พันล้านเครื่องในปี 2558 ปีที่จำนวนประชากรโลกจะเท่ากับ 7.2 พันล้านคน!!!
(บทความประชาสัมพันธ์)
Company Related Link :
TrueWiFi