หุ้นไทยรูด 11 จุดตามตลาดอื่นในภูมิภาค หลังผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และกังวลต่อวิกฤตในยุโรป “จรัมพร” เตือนนักลงทุนอย่างตื่นตระหนก ชี้บริษัทจดทะเบียนไทยศักยภาพยังแข็งแกร่ง โบรกฯ ประเมินวันนี้ (12 เม.ย.) ดัชนียังอ่อนตัวลงต่อ
ดัชนีหุ้นไทย วานนี้ (11 เม.ย.) ปิดที่ระดับ 1,154.49 จุด ลดลง 11.12 จุด หรือ -0.95% มูลค่าการซื้อขาย 25,993.79 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,161.53 จุด และต่ำสุด 1,151.21 จุด ภาพรวมปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาครับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ทั้งจากวิกฤตในยุโรป, ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ดี
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงว่า นักลงทุนไม่ควรกังวลมากนัก เนื่องจากเป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่เกิดจากความกังวลของเศรษฐกิจโลก โดยเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดหุ้นที่ดี และให้ผลตอบแทน เพราะในแง่ของกำไร บริษัทจดทะเบียนยังมีความแข็งแกร่ง รวมถึงในเชิงพื้นฐานยังดี
ขณะเดียวกัน มองว่า Fund Flow ยังซื้อสุทธิในหุ้นไทยต่อเนื่อง ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังในการลงทุนด้วย
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดจีน ที่ได้พลิกกลับมาปิดบวกในตอนท้าย ภายหลังจากตัวเลขการค้าได้ออกมาเกินดุลในงวดเดือน มี.ค. จากที่ก่อนหน้านี้จะขาดดุลการค้า
ทั้งนี้ ตลาดฯ ได้รับแรงกดดันจากวิกฤตในยุโรปที่เป็นปัญหา จากที่ Bond yield ของสเปน และอิตาลีได้ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ก็ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ จากความกังวลนี้ ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายหุ้นออกมาก่อน และหันไปซื้อตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ, เยอรมนี และญี่ปุ่นแทน ทำให้เห็นได้ว่าค่าเงินเยน และเงินดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) ประเมินว่า ดัชนียังมีสิทธิ์ที่จะอ่อนตัวลง เนื่องจากยังเผชิญกับปัจจัยกดดันเดิมๆ อยู่ อีกทั้งในวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) ก็จะเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะหยุดทำการระยะยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้น นักลงทุนอาจเลือกที่จะขายก่อนหยุดยาว พร้อมให้แนวรับ 1,145 จุด แนวต้าน 1,157 จุด
ดัชนีหุ้นไทย วานนี้ (11 เม.ย.) ปิดที่ระดับ 1,154.49 จุด ลดลง 11.12 จุด หรือ -0.95% มูลค่าการซื้อขาย 25,993.79 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,161.53 จุด และต่ำสุด 1,151.21 จุด ภาพรวมปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาครับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ทั้งจากวิกฤตในยุโรป, ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ดี
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงว่า นักลงทุนไม่ควรกังวลมากนัก เนื่องจากเป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่เกิดจากความกังวลของเศรษฐกิจโลก โดยเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดหุ้นที่ดี และให้ผลตอบแทน เพราะในแง่ของกำไร บริษัทจดทะเบียนยังมีความแข็งแกร่ง รวมถึงในเชิงพื้นฐานยังดี
ขณะเดียวกัน มองว่า Fund Flow ยังซื้อสุทธิในหุ้นไทยต่อเนื่อง ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังในการลงทุนด้วย
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดจีน ที่ได้พลิกกลับมาปิดบวกในตอนท้าย ภายหลังจากตัวเลขการค้าได้ออกมาเกินดุลในงวดเดือน มี.ค. จากที่ก่อนหน้านี้จะขาดดุลการค้า
ทั้งนี้ ตลาดฯ ได้รับแรงกดดันจากวิกฤตในยุโรปที่เป็นปัญหา จากที่ Bond yield ของสเปน และอิตาลีได้ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ก็ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ จากความกังวลนี้ ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายหุ้นออกมาก่อน และหันไปซื้อตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ, เยอรมนี และญี่ปุ่นแทน ทำให้เห็นได้ว่าค่าเงินเยน และเงินดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) ประเมินว่า ดัชนียังมีสิทธิ์ที่จะอ่อนตัวลง เนื่องจากยังเผชิญกับปัจจัยกดดันเดิมๆ อยู่ อีกทั้งในวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) ก็จะเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะหยุดทำการระยะยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้น นักลงทุนอาจเลือกที่จะขายก่อนหยุดยาว พร้อมให้แนวรับ 1,145 จุด แนวต้าน 1,157 จุด