ASTV ผู้จัดการายวัน - หุ้นไทยผันผวนในแดนลบ ปิดที่ 1,203.91จุด ลดลง0.01จุด วอลุ่มซื้อขายเบาบาง แต่ต่างชาติยังซื้อสุทธิ 1,695.61 ล้านบาท เหตุขาดปัจจัยบวกใหม่ๆสนับสนุน โบรกฯคาดวันนี้ยังผันผวนต่อขึ้นลงตามปัจจัยในต่างประเทศ
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดที่ระดับ 1,203.91 จุด ลดลง 0.10 จุด หรือ0.01% มูลค่าการซื้อขาย 26,957.32 ล้านบาท ภาพรวมการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวันแกว่งตัวในแดนลบ เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน โดยระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,205.63จุด และต่ำสุด1,194.83จุด
ทั้งพบว่า นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1,695.61 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนทั่วไปที่ซื้อสุทธิ 123.08 ล้านบาท โดยสถาบัน บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,037.54 ล้านบาท และ781.15 ล้านบาท ตามลำดับ
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 213 หลักทรัพย์ ลดลง 252 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 184 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ TCAP มูลค่าการซื้อขาย 1,638.51 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,541.27 ล้านบาท ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง 2.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,315.10 ล้านบาท ปิดที่ 358.00 บาท ลดลง 1.00 บาท IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,259.01 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,090.28 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ต่ำกว่าเป้าหมายที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยล่าสุดยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้ปรับตัวลดลง ทำให้วันนี้มีแรงขายทำกำไรหุ้นบิ๊กแคปขนาดใหญในกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางลงจากช่วงหลายวันที่ผ่านมา เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ค่อนข้าง outperform ตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมองว่าน่าจะเกิดจากการโยกย้ายเม็ดเงินจากตลาดหุ้นเอเชียเหนือ เข้ามาในตลาดหุ้นกลุ่ม TIP
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงนี้คือการประกาศข้อมูลตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศต้องรอดูว่าการขึ้นค่าแรง 300 บาท ในวันนี้ที่ 1 เม.ย. นี้จะส่งผลอะไรหรือไม่ ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(30 มี.ค.)ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,200 และ 1,180 จุด แนวต้าน 1,210 จุด
นายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล. เคทีบี ( ประเทศไทย ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงการปรับฐานยังไม่จบ ในบริเวณ 1,200 จุด ก่อให้เกิดความผันผวนอยู่ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาหนึ่ง กว่าจะผ่านได้ในลักษณะเดียวกับช่วงการปรับฐานบริเวณ 800 หรือ 1,000 จุด
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( 30 มี.ค.) ยังปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งตลาดพร้อมขึ้น ๆ ลง ๆ ให้เห็นรายวัน ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ เช่น ตลาดหุ้นดาวโจนส์สหรัฐ และราคาน้ำมันดิบ
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดที่ระดับ 1,203.91 จุด ลดลง 0.10 จุด หรือ0.01% มูลค่าการซื้อขาย 26,957.32 ล้านบาท ภาพรวมการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวันแกว่งตัวในแดนลบ เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน โดยระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,205.63จุด และต่ำสุด1,194.83จุด
ทั้งพบว่า นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1,695.61 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนทั่วไปที่ซื้อสุทธิ 123.08 ล้านบาท โดยสถาบัน บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,037.54 ล้านบาท และ781.15 ล้านบาท ตามลำดับ
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 213 หลักทรัพย์ ลดลง 252 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 184 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ TCAP มูลค่าการซื้อขาย 1,638.51 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,541.27 ล้านบาท ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง 2.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,315.10 ล้านบาท ปิดที่ 358.00 บาท ลดลง 1.00 บาท IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,259.01 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,090.28 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ต่ำกว่าเป้าหมายที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยล่าสุดยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้ปรับตัวลดลง ทำให้วันนี้มีแรงขายทำกำไรหุ้นบิ๊กแคปขนาดใหญในกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางลงจากช่วงหลายวันที่ผ่านมา เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ค่อนข้าง outperform ตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมองว่าน่าจะเกิดจากการโยกย้ายเม็ดเงินจากตลาดหุ้นเอเชียเหนือ เข้ามาในตลาดหุ้นกลุ่ม TIP
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงนี้คือการประกาศข้อมูลตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศต้องรอดูว่าการขึ้นค่าแรง 300 บาท ในวันนี้ที่ 1 เม.ย. นี้จะส่งผลอะไรหรือไม่ ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(30 มี.ค.)ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,200 และ 1,180 จุด แนวต้าน 1,210 จุด
นายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล. เคทีบี ( ประเทศไทย ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงการปรับฐานยังไม่จบ ในบริเวณ 1,200 จุด ก่อให้เกิดความผันผวนอยู่ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาหนึ่ง กว่าจะผ่านได้ในลักษณะเดียวกับช่วงการปรับฐานบริเวณ 800 หรือ 1,000 จุด
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( 30 มี.ค.) ยังปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งตลาดพร้อมขึ้น ๆ ลง ๆ ให้เห็นรายวัน ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ เช่น ตลาดหุ้นดาวโจนส์สหรัฐ และราคาน้ำมันดิบ