ตลาดหลักทรัพย์ฯยืนยันการซื้อขายหุ้นเป็นไปตามปกติ ชี้มีสาขาโบรกฯได้รับผลกระทบ 6 ราย แต่ทุกแห่งย้ายไปที่ทำการชั่วคราวแล้ว ผ่านตามสาขาแบงก์ต่างๆ เชื่อเป็นปัจจัยลบระยะสั้น ล่าสุดวานนี้หุ้นปิดบวก2.32 จุด ด้านสภาอุสหกรรมท่องเที่ยว ระบุ ท่องเที่ยวสูญรายได้200 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงเหตุการณ์ระเบิด ที่โรงแรมลี การ์เด้นส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ บริษัทที่ให้บริการด้านซื้อขายหลักทรัพย์ และแนะนำการลงทุนในหลักทรัพย์แก่ลูกค้า หรือ โบรกเกอร์ทั้ง 6 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบ ล่าสุดมีแผนการให้บริการลูกค้าที่ชัดเจนแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาในแง่ของการดูแลลูกค้า ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยนั้น จะต้องติดตามดูข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และต้องดูว่า ข่าวสารที่เกิดขึ้นออกไปยังต่างประเทศอย่างไร แต่คิดว่าในส่วนของภาคเอกชน อยากเห็นความสงบสุขเป็นหลัก ซึ่งต้องให้กำลังใจรัฐบาล พยายามดูแลสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุดดังนั้นในช่วงระหว่างนี้ ขอให้นักลงทุนตั้งสติ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ และที่สำคัญ นักลงทุนควรจะติดตามบริโภคข่าวสารอย่างต่อเนื่องด้วย
ด้าน ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ (2 เม.ย.) ดัชนีปิดที่ 1,199.09 จุด บวก 2.32 จุด หรือ 0.19 % มูลค่าซื้อขาย 2 หมื่นล้านบาท นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากอ่อนตัวลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สาเหตุมาจากรับแรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทางยูโรโซนได้มีมติเพิ่มวงเงินกองทุนคุ้มครองยูโรโซนเพื่อป้องกันปัญหาหนี้ไม่ให้ลุกลาม ส่วนเหตุการณ์การระเบิดที่
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลาและปัตตานี มองว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก แต่จะมีผลโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยวมากกว่า
***คาร์บอมส์ทำท่องเที่ยวสูญรายได้200ลบ.
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ผลจากเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ในโรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของเมืองหาดใหญ่ปีนี้อย่างแน่นอน โดย สทท.ประเมินว่าจะสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวราว 200 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของ รายได้ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หาดใหญ่ ปีนี้ที่ 500 ล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา จะหายไปราว 30-40% โดยขณะนี้เริ่มเห็นตัวเลขของการทยอยขอยกเลิกห้องพักที่จองไว้ และ จะกลับมาอีกครั้ง 2-3 เดือนหลังจากนี้
ทั้งนี้ สทท. ต้องการขอให้รัฐบาลสนับสนุนเอกชน ในเรื่องการจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจจับระเบิดในราคาพิเศษ จัดสัมมนาให้ความรู้เอกชน พร้อมทำคู่มือรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุต้องสงสัย เพราะที่ผ่านมาผู้ประกบอการก็มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่ด้วยเหตุการณ์นี้เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้ายในประเทศจึงควบคุมยาก สำหรับงานมิดไนท์สงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายนถ้าฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าควบคุมสถานการณ์ได้ งานก็จะจัดตามปกติ พร้อมดูท่าทีประเทศในอาเซียนด้วยว่าจะมีประเทศใดออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวบ้างหรือไม่ นอกจากนั้นยังขอเสนอให้รัฐบาล เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการดูแลพื้นที่ล่อแหลมเช่น ยะลา ปัตตานี นาราธิวาส และ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คู่ไปกับการจัดกิจกรรมเชิงบวก เช่น การจัด World Even หรือ World Forum ต่างๆเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงเหตุการณ์ระเบิด ที่โรงแรมลี การ์เด้นส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ บริษัทที่ให้บริการด้านซื้อขายหลักทรัพย์ และแนะนำการลงทุนในหลักทรัพย์แก่ลูกค้า หรือ โบรกเกอร์ทั้ง 6 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบ ล่าสุดมีแผนการให้บริการลูกค้าที่ชัดเจนแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาในแง่ของการดูแลลูกค้า ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยนั้น จะต้องติดตามดูข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และต้องดูว่า ข่าวสารที่เกิดขึ้นออกไปยังต่างประเทศอย่างไร แต่คิดว่าในส่วนของภาคเอกชน อยากเห็นความสงบสุขเป็นหลัก ซึ่งต้องให้กำลังใจรัฐบาล พยายามดูแลสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุดดังนั้นในช่วงระหว่างนี้ ขอให้นักลงทุนตั้งสติ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ และที่สำคัญ นักลงทุนควรจะติดตามบริโภคข่าวสารอย่างต่อเนื่องด้วย
ด้าน ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ (2 เม.ย.) ดัชนีปิดที่ 1,199.09 จุด บวก 2.32 จุด หรือ 0.19 % มูลค่าซื้อขาย 2 หมื่นล้านบาท นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากอ่อนตัวลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สาเหตุมาจากรับแรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทางยูโรโซนได้มีมติเพิ่มวงเงินกองทุนคุ้มครองยูโรโซนเพื่อป้องกันปัญหาหนี้ไม่ให้ลุกลาม ส่วนเหตุการณ์การระเบิดที่
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลาและปัตตานี มองว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก แต่จะมีผลโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยวมากกว่า
***คาร์บอมส์ทำท่องเที่ยวสูญรายได้200ลบ.
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ผลจากเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ในโรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของเมืองหาดใหญ่ปีนี้อย่างแน่นอน โดย สทท.ประเมินว่าจะสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวราว 200 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของ รายได้ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หาดใหญ่ ปีนี้ที่ 500 ล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา จะหายไปราว 30-40% โดยขณะนี้เริ่มเห็นตัวเลขของการทยอยขอยกเลิกห้องพักที่จองไว้ และ จะกลับมาอีกครั้ง 2-3 เดือนหลังจากนี้
ทั้งนี้ สทท. ต้องการขอให้รัฐบาลสนับสนุนเอกชน ในเรื่องการจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจจับระเบิดในราคาพิเศษ จัดสัมมนาให้ความรู้เอกชน พร้อมทำคู่มือรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุต้องสงสัย เพราะที่ผ่านมาผู้ประกบอการก็มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่ด้วยเหตุการณ์นี้เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้ายในประเทศจึงควบคุมยาก สำหรับงานมิดไนท์สงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายนถ้าฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าควบคุมสถานการณ์ได้ งานก็จะจัดตามปกติ พร้อมดูท่าทีประเทศในอาเซียนด้วยว่าจะมีประเทศใดออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวบ้างหรือไม่ นอกจากนั้นยังขอเสนอให้รัฐบาล เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการดูแลพื้นที่ล่อแหลมเช่น ยะลา ปัตตานี นาราธิวาส และ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คู่ไปกับการจัดกิจกรรมเชิงบวก เช่น การจัด World Even หรือ World Forum ต่างๆเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย