SPCG เปิดโซลาฟร์าร์มบนพื้นที่กว่า 133 ไร่ ที่สกลนคร เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำโซลาร์ฟาร์มในอาเซียน เล็งอีก 2 โครงการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายในเดือนนี้ ตั้งเป้าปี 56 จะสร้างแล้วเสร็จทั้งระบบ 34 โครงการ
วันนี้ (2 เม.ย.) นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการโซลาร์ฟาร์ม บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (สกลนคร 1) จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.วันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี ต้อนรับ ณ โครงการโซลาร์ฟาร์ม บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (สกลนคร 1) ต.บ้านถ่อน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
โดยน.ส.วันดี กล่าวว่า “โครงการโซลาร์ฟาร์ม (สกลนคร 1) มีพื้นที่กว่า 133 ไร่ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 เดือน เหตุที่เลือกจ.สกลนครก่อสร้าง เนื่องจาก เป็นพื้นที่ราบสูงไม่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย และอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีสภาพแสดงแดดที่ดีมีประสิทธิภาพต่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กระบวนการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดไม่ก่อให้เกิดอันตราย ไม่มีมลพิษส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญมีความมั่นคง เป็นพลังงานที่สะอาดลดภาวะโลกร้อน”
น.ส.วันดี กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ก่อสร้างโครงการโซลาร์ฟาร์มโดยเชื่อมโยงจำหน่ายไฟฟ้าแล้ว 7 โครงการ กำลังจะจำหน่ายไฟฟ้าอีก 2 โครงการ ในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งบริษัท เอสพีซีจี มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการที่เหลือทั้งหมดอีกประมาณ 20 โครงการ ให้แล้วเสร็จในปี 2556 ตามแผนที่ได้ตั้งไว้ รวม 34 โครงการ ซึ่งผ่านการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีความมั่นใจว่า การพัฒนาต่างๆ จะเป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ บริษัท SPC จะเป็นคู่ซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทำการจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 34 โครงการๆ ละ 6 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิตทั้งหมดประมาณ 240 เมกะวัตต์ รวมเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 24,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายในพิธีเปิดโครงการฯ ยังได้มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวน 30 ทุน และได้มอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียนในตำบลบ้านถ่อน เพื่อใช้ในการเรียนการสอน และทำกิจกรรมต่อไปด้วย
สำหรับ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอสพีซีจี บริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) เชิงพาณิชย์แห่งแรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนเงินกู้ยืมระยะยาว จาก ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารธนชาต โดยมีผู้ร่วมทุนในโครงการนี้ได้แก่ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม International Finance Corporation (IFC) และบริษัทไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัด
วันนี้ (2 เม.ย.) นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการโซลาร์ฟาร์ม บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (สกลนคร 1) จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.วันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี ต้อนรับ ณ โครงการโซลาร์ฟาร์ม บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (สกลนคร 1) ต.บ้านถ่อน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
โดยน.ส.วันดี กล่าวว่า “โครงการโซลาร์ฟาร์ม (สกลนคร 1) มีพื้นที่กว่า 133 ไร่ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 เดือน เหตุที่เลือกจ.สกลนครก่อสร้าง เนื่องจาก เป็นพื้นที่ราบสูงไม่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย และอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีสภาพแสดงแดดที่ดีมีประสิทธิภาพต่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กระบวนการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดไม่ก่อให้เกิดอันตราย ไม่มีมลพิษส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญมีความมั่นคง เป็นพลังงานที่สะอาดลดภาวะโลกร้อน”
น.ส.วันดี กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ก่อสร้างโครงการโซลาร์ฟาร์มโดยเชื่อมโยงจำหน่ายไฟฟ้าแล้ว 7 โครงการ กำลังจะจำหน่ายไฟฟ้าอีก 2 โครงการ ในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งบริษัท เอสพีซีจี มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการที่เหลือทั้งหมดอีกประมาณ 20 โครงการ ให้แล้วเสร็จในปี 2556 ตามแผนที่ได้ตั้งไว้ รวม 34 โครงการ ซึ่งผ่านการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีความมั่นใจว่า การพัฒนาต่างๆ จะเป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ บริษัท SPC จะเป็นคู่ซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทำการจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 34 โครงการๆ ละ 6 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิตทั้งหมดประมาณ 240 เมกะวัตต์ รวมเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 24,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายในพิธีเปิดโครงการฯ ยังได้มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวน 30 ทุน และได้มอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียนในตำบลบ้านถ่อน เพื่อใช้ในการเรียนการสอน และทำกิจกรรมต่อไปด้วย
สำหรับ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอสพีซีจี บริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) เชิงพาณิชย์แห่งแรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนเงินกู้ยืมระยะยาว จาก ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารธนชาต โดยมีผู้ร่วมทุนในโครงการนี้ได้แก่ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม International Finance Corporation (IFC) และบริษัทไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัด