นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาปล่อยกู้วงเงินรวม 1,517 ล้านบาท ในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าฟาร์ม) 3 แห่งที่โคราช ร่วมทุนสร้างโดย เอสพีซีจี และบ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการพลังงาน กำลังผลิต 3 โรง รวม 18 เมกะวัตต์ โดยจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2556
ทั้งนี้ โครงการโซล่าเพาเวอร์ โคราช 3, 4 และ 7 นี้ เป็นโครงการแรกที่เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กรพลังงานยักษ์ใหญ่ คือ กลุ่มบริษัทโซล่า เพาเวอร์ และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง โดยธนาคารกสิกรไทยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการเงินกู้ (Mandated Lead Arranger) พร้อมปล่อยเงินกู้ร่วมจำนวนรวม 1,517 ล้านบาท ระหว่าง ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงศรีฯ ในสัดส่วน 55% และ 45% ตามลำดับ รวมทั้งธนาคารกสิกรไทยยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนฝั่งธนาคารพาณิชย์ (Facility Agent) และตัวแทนหลักประกัน (Security Agent) และทำหน้าที่ให้บริการวงเงินอื่น ๆ เช่น การเปิดเอกสาร Letter of Credit ในการนำเข้าแผงพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงวงเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย
"ธนาคารมีเป้าหมายในการให้การสนับสนุนโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวขึ้นเป็นธนาคารอันดับ 1 ด้านธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน และครองส่วนแบ่งตลาด 80% โดยในอนาคตจะมีผู้เล่นรายใหม่ในตลาดที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจพลังงานมากขึ้น ซึ่งจะหมายถึงการร่วมมือกันทางธุรกิจที่มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น"
ทั้งนี้ โครงการโซล่าเพาเวอร์ โคราช 3, 4 และ 7 นี้ เป็นโครงการแรกที่เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กรพลังงานยักษ์ใหญ่ คือ กลุ่มบริษัทโซล่า เพาเวอร์ และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง โดยธนาคารกสิกรไทยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการเงินกู้ (Mandated Lead Arranger) พร้อมปล่อยเงินกู้ร่วมจำนวนรวม 1,517 ล้านบาท ระหว่าง ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงศรีฯ ในสัดส่วน 55% และ 45% ตามลำดับ รวมทั้งธนาคารกสิกรไทยยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนฝั่งธนาคารพาณิชย์ (Facility Agent) และตัวแทนหลักประกัน (Security Agent) และทำหน้าที่ให้บริการวงเงินอื่น ๆ เช่น การเปิดเอกสาร Letter of Credit ในการนำเข้าแผงพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงวงเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย
"ธนาคารมีเป้าหมายในการให้การสนับสนุนโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวขึ้นเป็นธนาคารอันดับ 1 ด้านธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน และครองส่วนแบ่งตลาด 80% โดยในอนาคตจะมีผู้เล่นรายใหม่ในตลาดที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจพลังงานมากขึ้น ซึ่งจะหมายถึงการร่วมมือกันทางธุรกิจที่มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น"