ASTVผู้จัดการรายวัน - สศค.ชงแพ็กเกจปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบให้รัฐมนตรีคลังพิจารณา คาดเกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี 56 หวังชดเชยรายได้ที่สูญไปจากการลดภาษีนิติบุคคลและขยายฐานภาษีเพิ่ม ด้านภาษีที่ดิน “กิตติรัตน์” อาจเปลี่ยนใจเก็บหลังให้ข่าวไม่เอา จนคนมองว่าอุ้มคนรวย เผยถกข้อมูลที่ถูกต้องอีกครั้ง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า สศค.จะเสนอแพ็กเกจปรับโครงสร้างภาษีทุกประเภทให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังพิจารณาในเร็วๆ นี้ ซึ่งอยู่ระหว่างนัดเวลาประชุมร่วมกัน โดยจะมีทั้งภาษีสรรพากรในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่สศค.ยืนยันให้ปรับเพิ่มนั้นทางฝ่ายนโยบายเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการปรับภาษีสรรสามิตในส่วนของภาษีฟุ่มเฟือยและภาษีบาป
ทั้งนี้ มองว่าการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลตามที่กำหนดไว้ 23% ปีแรกและ 20% ในปีถัดไปนั้นจะไม่กระทบฐานรายได้ให้ลดลง เพราะจะมีภาษีเพิ่มจากการขยายฐานการลงทุน ส่วนภาษีสรรพสามิตในส่วนของภาษีบาป สุรา ยาสูบ ก็จะเสนอให้มีการปรับเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยรายได้จากการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลที่กระทบรายได้ประมาณเดือนละ 9 พันล้านบาท ซึ่งน่าจะทำได้เร็วและไม่มีกระแสคัดค้าน
“ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีเรื่องเร่งด่วนต้องเร่งพิจารณาหลังจากนี้สศค.จะเตรียมแผนงานโดยเฉพาะแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีให้ รมว.คลังพิจารณา แต่การตัดสินใจก็คงขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าเห็นถึงความจำเป็นและความเหมาะสมของจังหวะเวลาหรือไม่ อย่างภาษีน้ำมันดีเซลที่ยังปรับขึ้นไม่ได้ก็เพราะขณะนี้สินค้ามีราคาแพงประชาชนมีปัญหาด้านค่าครองชีพสูง อาจจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมรวมถึงการปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงคาดว่าอาจได้เห็นการปรับภาษีอย่างชัดเจนในปี 2556 มากกว่าหลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้น ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพ” นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตามได้เข้าชี้แจงถึงหลักการของการจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่ต่อนายกิตติรัตน์แล้ว ซึ่งหลังจากชี้แจงรายละเอียดทาง รมว.คลังก็เห็นด้วยในหลักการ โดยเฉพาะประเด็นการเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่าที่ไม่นำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์หรือให้เช่าหารายได้นั้น ทาง รมว.คลังเข้าใจถึงหลักการและเห็นผลแล้วแต่มอบหมายให้กลับมาศึกษาเพิ่มเติมในการทำให้สาธารณะชนและทุกฝ่ายยอมรับและเห็นด้วยกับการนำภาษีดังกล่าวมาใช้ เพราะขณะนี้ยังมีบางกลุ่มไม่เห็นด้วย ซึ่งจะมีการรับฟังความคิดเห็นต่อไป
“เรื่องภาษีที่ดินที่ รมว.คลังระบุก่อนหน้านี้ว่ายังไม่ทำนั้นเพราะยังไม่ได้ฟังการชี้แจงจาก สศค. ซึ่งท่านก็ยืนยันว่าไม่ไช่ไม่สนับสนุนแต่ช่วงนี้มีเรื่องเร่งด่วนอื่นๆ ที่ต้องทำก่อน การที่สื่อโจมตีว่าท่านอุ้มคนรวยนั้นทำให้ท่านรู้สึกน้อยใจ” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า สศค.จะเสนอแพ็กเกจปรับโครงสร้างภาษีทุกประเภทให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังพิจารณาในเร็วๆ นี้ ซึ่งอยู่ระหว่างนัดเวลาประชุมร่วมกัน โดยจะมีทั้งภาษีสรรพากรในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่สศค.ยืนยันให้ปรับเพิ่มนั้นทางฝ่ายนโยบายเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการปรับภาษีสรรสามิตในส่วนของภาษีฟุ่มเฟือยและภาษีบาป
ทั้งนี้ มองว่าการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลตามที่กำหนดไว้ 23% ปีแรกและ 20% ในปีถัดไปนั้นจะไม่กระทบฐานรายได้ให้ลดลง เพราะจะมีภาษีเพิ่มจากการขยายฐานการลงทุน ส่วนภาษีสรรพสามิตในส่วนของภาษีบาป สุรา ยาสูบ ก็จะเสนอให้มีการปรับเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยรายได้จากการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลที่กระทบรายได้ประมาณเดือนละ 9 พันล้านบาท ซึ่งน่าจะทำได้เร็วและไม่มีกระแสคัดค้าน
“ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีเรื่องเร่งด่วนต้องเร่งพิจารณาหลังจากนี้สศค.จะเตรียมแผนงานโดยเฉพาะแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีให้ รมว.คลังพิจารณา แต่การตัดสินใจก็คงขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าเห็นถึงความจำเป็นและความเหมาะสมของจังหวะเวลาหรือไม่ อย่างภาษีน้ำมันดีเซลที่ยังปรับขึ้นไม่ได้ก็เพราะขณะนี้สินค้ามีราคาแพงประชาชนมีปัญหาด้านค่าครองชีพสูง อาจจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมรวมถึงการปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงคาดว่าอาจได้เห็นการปรับภาษีอย่างชัดเจนในปี 2556 มากกว่าหลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้น ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพ” นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตามได้เข้าชี้แจงถึงหลักการของการจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่ต่อนายกิตติรัตน์แล้ว ซึ่งหลังจากชี้แจงรายละเอียดทาง รมว.คลังก็เห็นด้วยในหลักการ โดยเฉพาะประเด็นการเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่าที่ไม่นำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์หรือให้เช่าหารายได้นั้น ทาง รมว.คลังเข้าใจถึงหลักการและเห็นผลแล้วแต่มอบหมายให้กลับมาศึกษาเพิ่มเติมในการทำให้สาธารณะชนและทุกฝ่ายยอมรับและเห็นด้วยกับการนำภาษีดังกล่าวมาใช้ เพราะขณะนี้ยังมีบางกลุ่มไม่เห็นด้วย ซึ่งจะมีการรับฟังความคิดเห็นต่อไป
“เรื่องภาษีที่ดินที่ รมว.คลังระบุก่อนหน้านี้ว่ายังไม่ทำนั้นเพราะยังไม่ได้ฟังการชี้แจงจาก สศค. ซึ่งท่านก็ยืนยันว่าไม่ไช่ไม่สนับสนุนแต่ช่วงนี้มีเรื่องเร่งด่วนอื่นๆ ที่ต้องทำก่อน การที่สื่อโจมตีว่าท่านอุ้มคนรวยนั้นทำให้ท่านรู้สึกน้อยใจ” นายสมชัยกล่าว