“กิตติรัตน์” ตั้งเป้า GDP โต 7% หวังกระจายรายได้ให้ทั่วถึง รับแก้ปัญหาน้ำมันแพงยาก แต่จะไม่ออกมาตรการทำให้ประชาชนเดือดร้อน พร้อมยืนยันไม่มีแนวคิดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง
วันนี้ (23 มี.ค.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง บรรยายพิเศษ “ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาหนี้สิน” ว่าเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาคุณภาพประชาชน แต่ยอมรับว่าปัญหาหนี้สินกระทบต่อการดำเนินชีวิตประชาชน ซึ่งการแก้ไขทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพราะลูกหนี้รายเล็กมีอำนาจต่อรองน้อยรวมถึงไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย ขณะเดียวกันก็เข้าใจเจ้าหนี้ที่ปล่อยสินเชื่อ มีต้นทุนการบริหารจัดการ แต่บางรายไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน จึงกระทบกับประชาชนผู้กู้และผู้ประกอบการปล่อยกู้รายอื่น
ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายที่แก้ไขปัญหาประชาชนโดยจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ GDP เติบโตขึ้นร้อยละ 7 เพื่อให้การกระจายรายได้เป็นไปอย่างทั่วถึง และมีเสถียรภาพราคาที่ดี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะพยายามให้ราคาสินค้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงนั้น รัฐบาลชดเชยโดยลดภาษีสรรพามิตแต่ราคาน้ำมันในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา สูงถึง 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งยอมรับเป็นเรื่องที่ยาก เพราะสถานการณ์ในประเทศตะวันออกกลาง พร้อมยืนยันรัฐบาลจะไม่ออกมาตรการที่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนในขณะนี้ ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจจะกระทบต้นทุนการผลิตของนายจ้าง ก็หวังว่าผู้ประกอบการจะเข้าใจในภาระค่าครองชีพของแรงงานด้วย
นายกิตติรัตน์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากไม่ใช่นโยบายที่พรรคได้หาเสียงไว้ และไม่ได้แถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฏร ขณะที่รัฐบาล ต้องการให้แน่ใจว่า หากมีกฎหมายใหม่เกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้มีสิ่งปลูกสร้างและที่ดินจำนวนน้อย