ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แกนนำเครือข่ายเกษตรกร-คนจนเตรียมบุกพบ “ยิ่งลักษณ์” ถึงงานเลี้ยง ยันหากไม่ยอมรับจะตื๊อจนกว่าจะยอม พร้อมรอฟังผลต่อวันประชุม ครม.สัญจร ด้านแรงงานโฮยาเตรียมทวงถามความคืบหน้าการเยียวยาหลังโดนลอยแพ โวยนายจ้างหาเรื่องให้ออกเลี่ยงจ่ายค่าแรง 300 รายงานข่าวแจ้งสารพัดม็อบรอต้อนรับ นายก-ครม.เพียบ
นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้(14 ม.ค. 2555) สมาชิก ขปส.ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายเกษตรกรและคนจนที่ได้รับผลกระทบจาการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลตั้งแต่อดีต ประมาณ 1,000 คน ได้นัดรวมตัวกันที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในระหว่างการเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 14-15 ม.ค. 2555
ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ สมาชิก ขปส.จะเดินทางไปยังงานเลี้ยงต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะที่หมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม เพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี โดยจะยื่นหนังสือให้กับนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากนายกรัฐมนตรีไม่ออกมารับเรื่อง ทางกลุ่มจะติดตามนายกรัฐมนตรีไปจนถึงที่พัก จนกว่านายกรัฐมนตรีจะออกมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว
นายประยงค์กล่าวต่อไปว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีรับหนังสือแล้ว ในวันที่ 15 ม.ค. สมาชิก ขปส.จะเดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ สถานที่จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เพื่อรอรับฟังคำตอบจากรัฐบาลว่าจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของ ขปส.อย่างไร
สำหรับข้อเรียกร้องของ ขปส.ที่จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้นั้น นายประยงค์ระบุว่า ประกอบด้วย การเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องธนาคารที่ดิน การขอคำยืนยันให้ยังคงชื่อโครงการโฉนดชุมชนโดยไม่มีการแก้ไข การสนับสนุนให้มีการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าเพื่อกระจายการถือครองที่ดิน การขอให้ภาครัฐนิรโทษกรรมคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรและคนจน รวมไปถึงข้อเรียกร้องจากประชาชนจากพื้นที่ 4 ชุมชนในพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า ซึ่งต้องการย้ายออกจากพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งต้องการให้โรงไฟฟ้าจ่ายเงินเยียวยาตามคำสั่งศาลปกครองและยุติคดีโดยไม่มีการอุทธรณ์อีก
ด้านนายอัครเดช ชอบดี ประธานสหภาพอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัมพันธ์ นิคมอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการถูกบริษัท โฮยากลาสดิสค์ ประเทศไทย จำกัดประกาศเลิกจ้าง จำนวน 1,609 คน เตรียมที่จะเคลื่อนไหวในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ โดยจะส่งตัวแทนของสหภาพจำนวน 30 คน เดินทางไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ ในวันที่ 15 ม.ค. เพื่อยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าการเยียวยาผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างต่อนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ผ่านมาเคยยื่นเรื่องผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่มาแล้ว
นายอัครเดชระบุว่า การถูกเลิกจ้างของกลุ่มแรงงานในครั้งนี้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แม้ทางผู้ประกอบการจะชี้แจงว่าจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงาน เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยและยอดการสั่งซื้อที่ลดจำนวนลง แต่ทางกลุ่มเห็นว่าการเลิกจ้างดังกล่าวมีสาเหตุจากการต้องการทำลายความเข้มแข็งของสหภาพ รวมทั้งต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าจ้างภายหลังจากรัฐบาลได้ประกาศปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาทมากกว่า
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 15 ม.ค. นี้ มีกลุ่มมวลชนต่างๆ ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้านรัฐบาลหลายกลุ่ม เตรียมที่จะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี โดยล่าสุดมีรายงานว่า มีมวลชนประมาณ 6-7 กลุ่มที่แจ้งผ่านหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือประสานผ่านทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าจะเดินทางมาชุมนุมและเข้ายื่นหนังสือในวันดังกล่าว
ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงออกหาข่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบจำนวนที่ชัดเจนว่าจะมีมวลชนกลุ่มใดและจำนวนเท่าใดบ้างที่จะเดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีในวันดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อจะได้เตรียมการรักษาความปลอดภัยในระหว่างการประชุม รวมทั้งทำการจัดระเบียบมวลชนที่จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้(14 ม.ค. 2555) สมาชิก ขปส.ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายเกษตรกรและคนจนที่ได้รับผลกระทบจาการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลตั้งแต่อดีต ประมาณ 1,000 คน ได้นัดรวมตัวกันที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในระหว่างการเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 14-15 ม.ค. 2555
ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ สมาชิก ขปส.จะเดินทางไปยังงานเลี้ยงต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะที่หมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม เพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี โดยจะยื่นหนังสือให้กับนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากนายกรัฐมนตรีไม่ออกมารับเรื่อง ทางกลุ่มจะติดตามนายกรัฐมนตรีไปจนถึงที่พัก จนกว่านายกรัฐมนตรีจะออกมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว
นายประยงค์กล่าวต่อไปว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีรับหนังสือแล้ว ในวันที่ 15 ม.ค. สมาชิก ขปส.จะเดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ สถานที่จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เพื่อรอรับฟังคำตอบจากรัฐบาลว่าจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของ ขปส.อย่างไร
สำหรับข้อเรียกร้องของ ขปส.ที่จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้นั้น นายประยงค์ระบุว่า ประกอบด้วย การเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องธนาคารที่ดิน การขอคำยืนยันให้ยังคงชื่อโครงการโฉนดชุมชนโดยไม่มีการแก้ไข การสนับสนุนให้มีการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าเพื่อกระจายการถือครองที่ดิน การขอให้ภาครัฐนิรโทษกรรมคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรและคนจน รวมไปถึงข้อเรียกร้องจากประชาชนจากพื้นที่ 4 ชุมชนในพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า ซึ่งต้องการย้ายออกจากพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งต้องการให้โรงไฟฟ้าจ่ายเงินเยียวยาตามคำสั่งศาลปกครองและยุติคดีโดยไม่มีการอุทธรณ์อีก
ด้านนายอัครเดช ชอบดี ประธานสหภาพอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัมพันธ์ นิคมอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการถูกบริษัท โฮยากลาสดิสค์ ประเทศไทย จำกัดประกาศเลิกจ้าง จำนวน 1,609 คน เตรียมที่จะเคลื่อนไหวในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ โดยจะส่งตัวแทนของสหภาพจำนวน 30 คน เดินทางไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ ในวันที่ 15 ม.ค. เพื่อยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าการเยียวยาผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างต่อนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ผ่านมาเคยยื่นเรื่องผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่มาแล้ว
นายอัครเดชระบุว่า การถูกเลิกจ้างของกลุ่มแรงงานในครั้งนี้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แม้ทางผู้ประกอบการจะชี้แจงว่าจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงาน เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยและยอดการสั่งซื้อที่ลดจำนวนลง แต่ทางกลุ่มเห็นว่าการเลิกจ้างดังกล่าวมีสาเหตุจากการต้องการทำลายความเข้มแข็งของสหภาพ รวมทั้งต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าจ้างภายหลังจากรัฐบาลได้ประกาศปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาทมากกว่า
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 15 ม.ค. นี้ มีกลุ่มมวลชนต่างๆ ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้านรัฐบาลหลายกลุ่ม เตรียมที่จะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี โดยล่าสุดมีรายงานว่า มีมวลชนประมาณ 6-7 กลุ่มที่แจ้งผ่านหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือประสานผ่านทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าจะเดินทางมาชุมนุมและเข้ายื่นหนังสือในวันดังกล่าว
ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงออกหาข่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบจำนวนที่ชัดเจนว่าจะมีมวลชนกลุ่มใดและจำนวนเท่าใดบ้างที่จะเดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีในวันดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อจะได้เตรียมการรักษาความปลอดภัยในระหว่างการประชุม รวมทั้งทำการจัดระเบียบมวลชนที่จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
